วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551

รอยจำผาด่าง 23





21 ตุลาคม 2551 เจ้าต้นน้ำกับภูเขา วิ่งมาหาเราเนื้อตัวเปียก ผสมกับเม็ดทรายทั้งตัวเต็มไปหมด กอดก็ไม่ได้ แต่พวกเค้าจะให้เราคลอเคลียลูบเนื้อลูบตัวทักทายขอความรัก เจ้าทั้งสองตื่นเต้นกระโดดวนล้อมรอบๆตัวเราไม่ยอมหยุดนิ่งเลย


22 ตุลาคม 2551 ฝนเม็ดแรกและโตใส่ท้องอ่างน้ำ เมื่อเราจากเรืองหลังนี้ไป ตอไม้มะค่ายังนอนให้เราเห็น แต่วันนี้ เจ้านอนจมน้ำไปแล้ว เรามองน้ำที่ฉ่ำชุ่มฟ้าและชุ่มดิน น้ำใสสีขาวไหลเป็นทางเป็นเส้นแม่น้ำเล็ก หลายสิบสาย วิ่งไหลลู่คดเคี้ยวลัดเลาะลงสู่อ่างน้ำ เพื่อเติมให้เต็มตามคำขอพรจากเรา




นกกระเต็นน้อยธรรมดา เกาะตรงเชือกร้องเพลงให้เราหันมองตามเสียง มุมเดิมของเจ้า มุมเดิมของเรา เรามองเจ้า แต่เจ้าแหงนมองฟ้า และสลับก้มหน้ามองน้ำ




23 ตุลาคม 2551 ยามเช้าวันนี้ เรือนภูสีหมอก นกกระรางสร้อยคอใหญ่เอาเรือนหลังนี้ เป็นจุดข้ามหลังคาบินทะยอยกันไปทีละตัวและหายไปในกลุ่มใบไม้ก้านเหลืองฝั่งตรงข้าม เรามองส่องเจ้าไม่ทัน ได้ยินเสียงคะเนจากสีและขนาด เราไม่เรียกความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตัวเอง…แค่ดีใจ แต่ชื่นชมมิตรภาพของเจ้าที่มอบให้ดินแดนแห่งนี้






24 ตุลาคม 2551 เมื่อเรามาถึงบ้านกร่าง กับน้องแมวเพื่อนเดินป่าของเรา สองข้างทางจากด่านสามยผีผีเสื้อจำนวนมากโบยบินให้พวกเราชมพบเห็นง่ายๆบ้างลงเกาะเป็นกลุ่มก้อนตลอดสองข้างทาง เราคอยชะเง้อมองข้างหน้า และจ้องลึกเข้าไปให้สุดในป่าข้างทาง ดินนิ่มแฉะเป็นรอยเท้าสัตว์เหยียบย่ำเป็นหลุมๆมากมาย และมีน้ำฝนขังค้างในหลุมรอยเท้านั่นด้วย ฝนตั้งเค้าเป็นสีเทา และลอยคลุมต่ำลงมา เราร้องบอกกับเมฆถ้าจะร่วงกลายเป็นเม็ดฝน อย่ารอช้าเลย หลังจากฝนจากไปและมีเรานั่งมองในศาลาน้ำฝนไหลไปในทิศทางต่างกันแต่มุ่งหน้าไปสู่ทิศเดียวกัน ลำธารของป่ารอเติมเต็มเม็ดฝน


นกจาบคาเคราน้ำเงินกับโพรงดินที่เป็นรัง คอยเฝ้าบินเข้าออก ป้วนเปี้ยน ปกป้อง เราบอกน้องนักดูนกหน้าใหม่ ให้เดินเข้าไปใกล้ และสำทับว่าค่อยๆใกล้เข้าไป และหยุด เพราะเรากำลังละเมิดความปลอดภัยของนก ตัวเรายืนมองอย่างห่างๆ เพื่อให้เพื่อนได้ใกล้ชิดและเรียนรู้จักการสุภาพและเกรงใจกับเจ้าของป่าผืนนี้ หลังจากน้องเดินออกมา คำพูดของน้องเกี่ยวกับความรู้สึกดีใจ มีความสุข ตื่นตาตื่นใจกับโลกอีกโลกหนึ่งและรับรู้พลัง ความรู้สึกพิเศษบางอย่างเกิดขึ้นในใจน้องคนนี้ และจะคงอยู่อย่างนั้น และยิ่งเนิ่นนาน ความรู้สึกพิเศษนี้ จะดลบันดาลให้น้องมุ่งมั่นทำงานให้ธรรมชาติเพิ่มอีกคนหนึ่ง




29 ตุลาคม 2551 นกกินปลีตัวผู้ ยังคอยบินเข้าออกรัง มีเราและชาวผาด่างต่างคอยดูแลช่วยกันให้อีกชีวิตเล็กที่กำลังเกิดขึ้นมา ไม่นานเจ้าตัวน้อยๆ จะมีปีกบางๆได้ออกมาเห็นแสงตะวันแรกของชีวิต มีวันแรกของการหัดบิน มีพ่อและแม่คอยบอกสอนใกล้ๆ เจ้าจะมีน้ำหวานและตัวหนอนมากมาย ต้นไม้ใหญ่เล็ก กำลังแผ่กิ่งก้านให้เจ้าเกาะพักนอนในดินแดนผาด่าง


30 ตุลาคม 2551 เช้านี้เราเดินไปห้องกาแฟ ผ่านซุ้มไผ่ มีกิ่งหนักเอนออกแยกจากกอ ทุกปลายใบไผ่เขียวอ่อนและทุกช่อมีน้ำค้างเกาะเป็นเม็ดแก้วใสกลมเล็กๆ สะท้อนเล่นแสงตามลมน้อยๆจับโยกเอนเป็นประกายเพชรทั้งกิ่งก้าน






ดอกหญ้าสีม่วงเราไม่รู้จักชื่อ กับสายลมอ่อนพัดใบไม้ไหวเหมือนริบบิ้น กับดอกไม้สีขาวบางเล็กขึ้นเลื้อยคลุมยอดไม้ใหญ่สูงแต่จากระเบียงยอดไม้สูงกลับเสมอกับตัวเรา



เนินสูงบ้านฟ้าสดฟ้าใส ดอกไม้สีขาวตามไหล่เขาเป็นหมู่ใหญ่ นกยางกรอกพันธุ์จีน บินส่งเสียงร้องมากันอย่างให้แปลกใจ ไม่แยกกันเหมือนที่ผ่านมา แต่กลับคอยจับคู่กันลงโฉบหาปลา บ้างเดินย่างก้าวข้างๆพงหญ้าสูง นกกวักร้องเกี้ยวพากันและพากันบินตามต่ำเลียดพื้นน้ำข้ามตัดฝั่งไปมา


เสียงเก๋ตะโกนเรียก พี่ยุง พี่ยุงอยู่ไหน เราบอกว่าอยู่ในน้ำ เก๋ตะโกนอีกว่า ลูกค้าบ้านนกร่าเริงจะตกปลา ให้พี่ยุงช้อนกุ้งให้ด้วย และเมื่อได้แล้วเก๋คนสวยก็แบกเบ็ดตกปลามุ่งหน้าสู่บ้านนกร่าเริง


24 ตุลาคม 2551 เมื่อเรามาถึงบ้านกร่าง กับน้องแมวเพื่อนเดินป่าของเรา สองข้างทางจากด่านสามยอด ผีเสื้อจำนวนมากโบยบินให้พวกเราชมพบเห็นง่ายๆบ้างลงเกาะเป็นกลุ่มก้อนตลอดสองข้างทาง เราคอยชะเง้อมองข้างหน้า และจ้องลึกเข้าไปให้สุดในป่าข้างทาง ดินนิ่มแฉะเป็นรอยเท้าสัตว์เหยียบย่ำเป็นหลุมๆมากมาย และมีน้ำฝนขังค้างในหลุมรอยเท้านั่นด้วย ฝนตั้งเค้าเป็นสีเทา และลอยคลุมต่ำลงมา เราร้องบอกกับเมฆถ้าจะร่วงกลายเป็นเม็ดฝน อย่ารอช้าเลย หลังจากฝนจากไปและมีเรานั่งมองในศาลาน้ำฝนไหลไปในทิศทางต่างกันแต่มุ่งหน้าไปสู่ทิศเดียวกัน ลำธารของป่ารอเติมเต็มเม็ดฝน

นกจาบคาเคราน้ำเงินกับโพรงดินที่เป็นรัง คอยเฝ้าบินเข้าออก ป้วนเปี้ยน ปกป้อง เราบอกน้องนักดูนกหน้าใหม่ ให้เดินเข้าไปใกล้ และสำทับว่าค่อยๆใกล้เข้าไป และหยุด เพราะเรากำลังละเมิดความปลอดภัยของนก ตัวเรายืนมองอย่างห่างๆ เพื่อให้เพื่อนได้ใกล้ชิดและเรียนรู้จักการสุภาพและเกรงใจกับเจ้าของป่าผืนนี้ หลังจากน้องเดินออกมา คำพูดของน้องเกี่ยวกับความรู้สึกดีใจ มีความสุข ตื่นตาตื่นใจกับโลกอีกโลกหนึ่งและรับรู้พลัง ความรู้สึกพิเศษบางอย่างเกิดขึ้นในใจน้องคนนี้ และจะคงอยู่อย่างนั้น และยิ่งเนิ่นนาน ความรู้สึกพิเศษนี้ จะดลบันดาลให้น้องมุ่งมั่นทำงานให้ธรรมชาติเพิ่มอีกคนหนึ่ง

29 ตุลาคม 2551 นกกินปลีตัวผู้ ยังคอยบินเข้าออกรัง ชาวผาด่างต่างคอยดูแลช่วยกันให้อีกชีวิตเล็กที่กำลังเกิดขึ้นมา ไม่นานเจ้าตัวน้อยๆ จะมีปีกบางๆได้ออกมาเห็นแสงตะวันแรกของชีวิต มีวันแรกของการหัดบิน มีพ่อและแม่คอยบอกสอนใกล้ๆ เจ้าจะมีน้ำหวานและตัวหนอนมากมาย ต้นไม้ใหญ่เล็ก กำลังแผ่กิ่งก้านให้เจ้าเกาะพักนอนในดินแดนผาด่าง







30 ตุลาคม 2551 เช้านี้เราเดินไปห้องกาแฟ ผ่านซุ้มไผ่ มีกิ่งหนักเอนออกแยกจากกอ ทุกปลายใบไผ่เขียวอ่อนและทุกช่อมีน้ำค้างเกาะเป็นเม็ดแก้วใสกลมเล็กๆ สะท้อนเล่นแสงตามลมน้อยๆจับโยกเอนเป็นประกายเพชรทั้งกิ่งก้าน

ดอกหญ้าสีม่วงเราไม่รู้จักชื่อ กับสายลมอ่อนพัดใบไม้ไหวเหมือนริบบิ้น กับดอกไม้สีขาวบางเล็กขึ้นเลื้อยคลุมยอดไม้ใหญ่สูงแต่จากระเบียงยอดไม้สูงกลับเสมอกับตัวเรา






เนินสูงบ้านฟ้าสดฟ้าใส ดอกไม้สีขาวตามไหล่เขาเป็นหมู่ใหญ่ นกยางกรอกพันธุ์จีน บินส่งเสียงร้องมากันอย่างให้แปลกใจ ไม่แยกกันเหมือนที่ผ่านมา แต่กลับคอยจับคู่กันลงโฉบหาปลา บ้างเดินย่างก้าวข้างๆพงหญ้าสูง นกกวักร้องเกี้ยวพากันและพากันบินตามต่ำเลียดพื้นน้ำข้ามตัดฝั่งไปมา






บนระเบียงเรือนภูสีหมอก เราเห็นไอ้ยุง ลูกชาย หลานชายกำลังเดินผ่านสู่ทิศลงท่าน้ำ แต่มีท่าทีแปลก พวกนี้ทำท่าเดินเหมือนย่องๆ เงียบๆ เราตะโกนถามเสียงดัง อ้าว... จะไปไหนกัน ทั้งสามคนหันมามองเรา แล้วทำท่าทางเหมือนกันหมด ด้วยการเอานิ้วชี้ปิดปาก พูดแต่ไม่มีเสียง ใช้ภาษากายบอกเราอย่างคุ้นเคยว่า จะไปกู้ปลา แต่ต้องหลบเจ้าต้นน้ำ กับเจ้าภูเขา เรารับรู้ในใจและรู้ว่าเจ้าสองตัวคือตัวปัญหากับการกู้ปลา ตะข่ายเป็นแพในน้ำ กับหมาสองตัวที่ชอบว่ายน้ำเล่นไปกับคน ทุกอย่างคงพังและปลาจะมีลงหม้อหรือ

นกขมิ้นน้อยธรรมดาตัวผู้ เกาะต้นไม้ฝั่งขวา ห่างเราไปแค่สามเมตร และสูงเกินหัวเราแค่สองเมตร ส่วนตัวเมียอยู่ต้นซ้ายมือ เราอยู่ตรงกลาง มีบางอย่างเกิดในเวลาเดียวกันนี้ ผู้อ่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ ตรงอ่างน้ำสำหรับเพื่อนนกของเรา นกน้อยสองตัวกินแมลงอกเหลืองลงเล่นน้ำคลายร้อนก่อนเที่ยง นกจับแมลงจุกดำตัวเมียเกาะประตูไม้เตี้ยๆรอเป็นตัวต่อไปที่จะขอลงเล่นน้ำ


ทุกอย่างของย่อหน้านี้คือเวลาเดียวกันทั้งหมด สำหรับมิติความเพลิดแพร้วคนรักนกด้วยกัน คงเข้าใจความรู้สึกเช่นนี้ เราไม่เสียใจที่ไม่สามารถเลือกจ้องมองพิเศษแค่ตัวหนึ่งตัวใดได้ ทุกตัวมาเพื่อหาความสำราญจากสถานที่แห่งนี้ และเราก็เป็นหนึ่งที่ได้รับความสุขชื่นบานจากที่แห่งนี้ด้วยมิใช่หรือ
เราขอขอบคุณธรรมชาติอีกครั้งด้วยความสุภาพ

วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2551





15 october ,2008 วันนี้เป็นวันแรก สำหรับเรากับการเขียนหนังสือ บนบ้านหลังใหม่ชื่อ เรือน…ภูสีหมอก บ้านนี้เรากับพี่เปี๊ยกตั้งใจแน่วแน่ไว้ว่า บ้านหลังนี้คือที่นอนของพวกเรา


ตั้งแต่เราทำผาด่างมา เราทั้งคู่ยังไม่มีบ้าน มีแต่การย้ายไปนอนทุกหลัง ทุกหลัง ในผาด่างแต่ละคืนบ้านที่เราเลือกขึ้นอยู่กับบรรยากาศจะพาเราทั้งคู่ไป เรือนภูสีหมอกฝาบ้านทำด้วยไม้ไผ่ตีให้แตกแผ่เป็นฝากว้างและยาว เครื่องไม้ปกติเป็นโครงไม้ในตัวบ้านจะออกมาอยู่ข้างนอกแทน




ระเบียงยาวโค้งอ้อมคุ้งน้ำและลดระดับต่างชั้นกันไป เราทั้งคู่วาดฝันกันให้เป็นอีกมุมหนึ่งเพื่อให้ลูกค้าเพื่อนแห่งธรรมชาติมีอีกมุม และอีกมุมเพลิดเพลิน นอนอ่านหนังสือกับเพื่อนคือสายลมท้องน้ำและท้องฟ้า หรือ จิบกาแฟ ทานอาหารยามเช้าและยามบ่ายน้ำดื่มผึ้งผสมมะนาวเย็นๆ


หรือยามค่ำคืน ใต้แสงเทียนให้มองฝ่าความมืดเพื่อเห็นความมืดเช่นกัน และบางครั้งสัตว์น้อยตัวเล็กๆทำเสียงประหลาดลอยมาจากลานหญ้าด้านล่าง หรือเสียงจากตลิ่งชายน้ำให้ฟังว่านั่นเสียงอะไรกัน ยามกลางวันเจ้าผีเสื้อมากมายชอบบินวนเวียนเกาะตรงบันไดด้านตะวันออกขั้นที่สอง เราเองก็งงเหมือนกันว่าผีเสื้อเจ้าพวกนี้จึงชอบบันไดขั้นนี้เอาจริงๆ เราเขียนไปแล้วลองอ่านดูทุกบรรทัดเราแน่ใจอย่างไม่ต้องสงสัย เรากำลังมีความสุข







เราเดินตามเสียงเครื่องไฟฟ้าที่ส่งเสียงดัง ว่ามีการตัดเหล็ก เราถามยอดว่าทำอะไร ยอดบอกว่าทำประตูรั้วบ้านโมกป่า กับการเวก ถ้าเหล็กเหลือ ก็จะทำให้บ้านนกเงือกด้วย เราแวะเก็บพริกหน้าบ้านนกร่าเริงห่อกระดาษไปส่งให้เก๋ที่ห้องครัว ก่อนเดินย้อนกลับมาเอาปลอกหมอนอิงใบใหม่หลาบใบที่เราออกแบบเอง ไปเปลี่ยนเอาปลอกหมอนเก่าออกซักที่บ้านริมน้ำ ทั้ง3 หลัง







16 october ,2008 ในวงสนทนา ของร้านผาด่าง วันนี้ท้องฟ้าสว่างเจิดจ้า คงเพราะเมื่อคืนฝนตกคลุมป่าทั้งป่าในละแวกนี้ และซาจากไปยามอรุณรุ่งเช้ามาเยือน ตาเขียดมาตามชาวบ้านให้ไปดูรอยเท้าสัตว์อุ้งเท้าใหญ่เป็นรอยลึกสดและใหม่มากๆ น่าจะมากันสองตัวแต่เช้า ชาวบ้านหลายคนคาดคะเนว่าน่าจะเป็นเสือดำหรือเสือดาว เสียงเล่าเข้ามาถึงชาวผาด่าง พี่หวัดขับซากรถเครื่องเก่าๆดังเข้ามา ร่วมรับฟังและโพล่งขึ้นว่า ไม่ใช่เสือดง เสือดาวอะไรหรอก เห็นเจ้าต้นน้ำ กับเจ้าภูเขาเข้าไปวิ่งเล่นในไร่ตาเขียดเมื่อเช้านี้เอง


บนทางเดินมีกิ่งชะอมหักร่วง ดินเปียกเพราะน้ำฝน นี่ออกพรรษาแล้วฝนกำลังจะหมดไป ปีนี้พวกเราเป็นฝ่ายตั้งรับกับธรรมชาติเติมฝนให้ชาวแก่งกระจานไม่มากนัก ปีหน้าในหน้าแล้งการแย่งทรัพยากรน้ำเกิดขึ้นอย่างแน่นอน


ต้นไทรออกลูกสีเหลืองอีกแล้ว และนกต่างๆบินเข้าบินออก นกแก๊กส่งเสียงดังอยู่ไกลๆ บอกว่าถิ่นนี้เรายังเป็นผู้ครอบครอง นกกระเต็นน้อยธรรมดาเพื่อนผู้เฝ้าท้องน้ำ ส่งเสียงใสทักทาย นกกินปลีolive-back sunbird ตัวแม่ยังทำหน้าที่บินคาบเหยื่อวนเวียนรังลูกน้อย ตรงต้นไผ่กิ่งโน้มหน้าอ่างล้างจาน เรากับเจ้าใกล้กันมาก ทำไมความยินดีเกิดขึ้นด้วยกับการที่เจ้าบินมาใกล้แสนใกล้อย่างนี้







ยามบ่ายเราเขียนหนังสือบนเรือนหน้าบ้านภูสีหมอก เสียงนกกระเต็นหัวดำมาก่อนและเรียกสายตาเรามองตาม เห็นตัวและได้ยินกันและกันแสนสั้นเหลือเกิน เมฆตั้งเค้าบอกว่าฝนละลอกใหม่กำลังมา และไม่นานฝนก็ทยอยตกเปาะแปะบนกระดานไม้หน้าเรา เรามองเม็ดฝนด้วยความสดชื่นและชื่นใจ ฝนหนาเม็ดและหนักขึ้นเรื่อยๆ และไม่นานเราก็หลับไป




ก่อนเราเข้ากรุงเทพ เจ้าต้นน้ำ เดินมาหา มีเลือดสดผสมรอยเท้าบนพื้นไม้ พวกเราช่วยกันดูว่าเท้าไหน ข้างไหน หน้าหรือหลัง และพบว่า เท้าหลังเป็นแผลลึก ทุกคนสรุปกันว่า ควรต้องให้หมอเย็บแผล เราพาเจ้าต้นน้ำ ขึ้นรถไปโรงพญาบาลให้หมอรักษาและไม่ลืมฉีดยากันบาดทะยักด้วย





เรือนหลังใหม่ที่เป็นบ้านของพวกเรากับเจ้าภูเขาและต้นน้ำ อาทิตย์หน้าถ้าเรากลับไป งานแรกของเราคงเป็นการคลานไปมาอยู่ใต้ถุนเรือน เก็บเศษเหล็ก สังกะสี ตะปู

วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ปู่เย็น

13 ตุลาคม 2551 ในป่าลึกแห่งหนึ่ง สายน้ำ เล็กๆก่อเกิดขึ้น สายน้ำสีขาวใสส่องแสงแวววับ เป็นประกายเพชรทั้งสาย นับวันสายน้ำนี้จะยาวมากขึ้น จากรุ่งเช้าน้ำเดินทางอย่างไม่ยอมหลับใหล เพียงแค่หายกลืนไปกับราตรี น้ำสีขาวบริสุทธิ์ไหลรินผ่านต้นไม้ต้นเล่า มีก้อนหินต่างสีและขนาดดาระดาษนอนแข็งเป็นลำธารพาน้ำไหลไป หน้าที่ของน้ำป่าสีขาวราวแก้วบางให้ทุกชีวิตที่ยืนเรียงข้างทางรออย่างเสมอต้นเสมอปลาย ทุกวันแม่น้ำเพชรบุรีมีตะวันและท้องฟ้าเฝ้ามองก่อนจากกันไปคนละทิศเมื่อยามเย็นมาถึง

วันข้างหน้าสายน้ำแสนสวยนี้จะหมองลง สิ่งสกปรกจะถูกผลักสู่แม่น้ำแสนสวยผู้อ่อนแอ อย่างไร้คุณค่าของบางคน
การกำหนด… บางเรื่อง… บางคน เกิดขึ้นแล้วเป็นระยะเวลายาวนานและนาน

ป่าแก่งกระจานสร้างต้นสายน้ำและชายคนหนึ่ง จับคู่กันอยู่ด้วยกันกับสายน้ำแห่งนี้…เจ้าจะมีบ้านเป็นเรือและบ้านของเจ้าจะไม่ใหญ่ไปกว่าร่างของเจ้า น้ำที่ไหลเย็นและชื่อของเจ้าคือหนึ่งเดียวกันและถูกกำหนดผูกสัญญาต่อกัน ต้องอยู่ร่วมกันอย่างยืนยาว จนกว่าหน้าที่ของเจ้าลุล่วง





นามที่เรียกกล่าว ปู่เย็น รอยยิ้มจากใจแจกจ่ายเพื่อนสรรพชีวิต มีความทรนงรู้ตนเป็นฐานมั่นในร่างชายแก่ชรา เป็นครูบาอาจารย์ตัวแทนธรรมชาติ เป็นตัวอย่างความคิดดีหลายประการสะท้อนปัญหาทวนกระแสของโลกวัตถุนิยม ความกรุณา ซื่อสัตย์ จะมีมากมาย และหลายคำตอบ ทำให้คนหลายๆคนตื่นรู้พบมุมแง่ชีวิตหนึ่งที่แสนมีความสุขบนความสบายแม้ไม่ต้องมากด้วยเงินทอง

ในจิตของนามนี้ (ปู่เย็น) แม่น้ำเพชรบุรีทำหน้าที่ ส่งปลาเป็นเพื่อนและเป็นอาหารอย่างพอเพียงเท่านั้น นกน้อยร้องเพลงไพเพราะปลุกยามแสงแห่งวันใหม่เดินทางมาถึงทางทิศตะวันออก พวกกบกับปาดและเขียด จะร้องระงมยามร้องขอฝนจากฟ้า หรือร้องขอบคุณฟ้าที่ประทานฝนใหม่น้ำใหม่ จักจั่นจะดีดปีกเป็นสายพิณให้ปู่ฟังยามเหงาทอดเรือตอนบ่ายใต้ร่มต้นมะเดื่อใหญ่เอียงริมแม่น้ำ



ครูของปู่คือธรรมชาติ สอนทุกอย่างและทุกวัน วิถีธรรมชาติค่อยๆซึมติดแน่นอย่างเงียบๆ และเนิ่นนาน หนึ่งชีวิตชายชราหลังค่อมกับโค้งน้ำไหลคดเคี้ยวมีเรือลำน้อยๆเป็นพาหนะ ป่าไผ่กอใหญ่ร้องเรียก เอียดอ๊าด และโอนเอนไหวไปมายามปู่ปล่อยเรือผ่านไป เงาหนาบานของต้นไม้จะแผ่ทอดลงแม่น้ำ ดักรอให้ปู่งัดพายเข้าหาร่มเงาและสายลมจะพัดวีให้ปู่งีบหลับตอนกลางวัน

รอยยิ้มของปู่ยิ้มส่งถึงท้องฟ้า และบ่อยครั้งใบหน้ายิ้มของปู่ ปรากฏเงาในลำน้ำ ให้ เพื่อนๆ กุ้ง ปู ปลา ที่แหวกว่ายกินตะไคร้ข้างเรือ ความกรุณาอย่างหนึ่งธรรมชาติไม่สอนความทุกข์โศกให้ปะปนกับเรื่องลำบาก และนี่คือหัวใจของอำนาจวิเศษจากตำนานเรื่องนี้ จากวันร้อยเรียงเป็นเดือนกลายเป็นปี…หลายปีผ่านไป

เวลาทำงานของปู่ เริ่มขึ้นแล้ว สายน้ำเริ่มร้องไห้ น้ำตาของแม่น้ำปนกับน้ำตาของชายชราเมื่อเริ่มเห็นแม่น้ำป่วยลง…อาการแย่ลงทุกที เรื่องราวถูกกำหนดให้มาถึงตอนสำคัญ ปู่กับแม่น้ำแห่งนี้ปรากฏเป็นข่าวดัง สะเทือน สะกดติดแน่นหัวใจคนในโลกแห่งการสื่อสาร และการช่วงชิงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ



ปู่เปิดเผยชีวิตตัวเองพร้อมกับเรื่องราวของเพื่อนไปด้วยกัน ทุกคำพูดมีประสบการณ์ของบทสอนวิถีธรรมชาติอย่างง่ายๆต่อการนำไปใช้และจดจำ รอยยิ้มกับเรื่องที่ชอบเล่าเรื่องของตัวเองกับเพื่อนรัก เล่าไป ก็ยิ้มไป ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความจริงใจให้เพื่อน กิจวัตรในแต่ละวันที่ทำด้วยกัน ตั้งแต่สมัยก่อนๆ ปู่มักอวดเพื่อนของปู่ว่าสวยงดงามใสบริสุทธ์ แค่ไหน มีคุณค่ากับหัวใจและชีวิตของปู่อย่างไร ปู่จะไม่จากเพื่อนไปนาน ช่วงสั้นๆในแต่ละวันเท่านั้นเอง เมื่อยามเย็นมาถึงปู่จะกลับมานอนกับเพื่อนของปู่

เพื่อนของปู่คือแม่น้ำเพชรบุรี ปู่บอกว่า เพื่อนให้อาหาร เพื่อนเป็นน้ำดื่ม เป็นน้ำอาบ เป็นบ้าน ปู่เย็นเล่าบอกถึงความผูกพันธ์กับแม่น้ำแห่งนี้ เสียจนทำให้เรารักปู่และเพื่อนของปู่ด้วย สงสารแม่น้ำแห่งนี้ เสียใจไปพร้อมกับปู่ ปู่ยังย้ำอีกว่าทำไม เพราะอะไร สายน้ำทำผิดหรือจึงต้องบอบช้ำ ร่วงโรยบางช่วงกลายเป็นน้ำเน่า และมักมีกลิ่นแต่ปู่เลือกจะไม่ทอดทิ้งเพื่อน แต่มีเรื่องแปลกที่ซับซ้อน ปู่ไม่เคยตำหนิว่าใครทำให้แม่น้ำ เพื่อนของปู่เป็นอย่างนี้





เรามองแม่น้ำสายเพชรบุรี แม่น้ำเพื่อนของปู่เย็น มองผืนน้ำสีชาเป็นริ้วบางๆ เพราะสีก้อนหินกับตะไคร้สีเขียว เจ้าแห่งกาลเวลาพาปู่ไปไหน ทำไมมีแม่น้ำที่ยังทำงาน แม่น้ำเพชรบุรีแต่ไม่มีปู่เย็นความหมายตำนานความรักหลอมรวมกันแตกสลายลงแล้ว หรือเพราะปู่ทำหน้าที่เสร็จแล้วอย่างสมบูรณ์

วันนี้ ลูกหลานปู่เย็นจำนวนมาก ต่างรับรู้หน้าที่ ความสำคัญที่สุดคือการรักษาสัญญา สัญญาว่าสำนึกรักษ์แม่น้ำเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ผืนป่าแก่งกระจาน ดินธุลี หยดน้ำ ฟ้าและ ฝน ต้นไม้ ใบไม้และชีวิตสัตว์ป่าร่วมโลก หลากหลายชีวิตกำลังทำความดีเดินตามคำสั่งสอนของปู่ ความมุ่งมั่นของคนเขียน แม้ไม่ใช่ผู้ที่ธรรมชาติเลือกให้ทำงาน แต่ขออาสารักษาต้นน้ำถึงปลายน้ำด้วยศรัทธาในสิ่งที่ปู่เย็นปฏิบัติให้เป็นตัวอย่าง

จิตอาสาของเรา อฐิฐาน ให้สายลมป่าโปรดไปรับปู่เย็นกลับมาหาเพื่อน(แม่น้ำเพชรบุรี)และอยู่ร่วมกันตลอดไป

วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2551

แก่งกระจาน กับ อาจารย์รุ่งโรจน์

September 21,2008. บนรถตู้ที่เรากำลังเดินทางกลับสู่แก่งกระจาน นักดูนกหน้าใหม่ ผู้ใฝ่ฝันก้าวล้ำเข้าสู่ดินแดนของนกป่า และเพื่อนใหม่ผู้รักการถ่ายรูปนกมากมาย ถึง 25 ชีวิตด้วยกัน




ทุกครั้งของเรากับทริปของสมาคมดูนก ย่อมมีสิ่งที่แตกต่างออกไปจากครั้งก่อน อาจารย์ รุ่งโรจน์ จุกมงคล และอาจารย์อมร เป็น bird leader ครั้งนี้เจ้าแห่งกาลเวลากำหนด ความเป็นครั้งแรกให้เราได้พบได้รู้จัก อาจารย์รุ่งโรจน์ การค้นหา…บางอย่างที่ธรรมชาติสร้างไว้ให้กับชายผู้นี้ ทำไมอาจารย์รุ่งโรจน์คือคนของธรรมชาติ เราจะต้องรู้สิ่งนั้น อะไร….ความดีงามด้านใดของธรรมชาติ สถิตย์ในจิตใจชายผู้นี้ ให้เห็นเป็นการทำงานอย่างเกินธรรมดา เป็นประโยชน์ตรงไปตรงมาทั้งต่อมวลมนุษย์ และต่อรากแก้ววัฒนธรรมสิ่งแวดล้อมของสรรพชีวิตโลก






กาลเวลาให้เฉพาะ วันนี้… จากเช้ามืดจนถึงยามเย็น คำตอบจะมีมาพร้อมกับนกป่าและสายลม แสงแดด รวมทั้งต้นไม้ สายธารใสเย็น หมู่มวลผีเสื้อบินว่อน เมฆฝนที่คอยเลื่อนปิดและเปิดท้องฟ้า บังแสงอาทิตย์เป็นละลอกๆ

มีครั้งแรกอีกครั้ง ในป่าแสนรักแห่งนี้ เราได้เดินตามหลังอาจารย์อมร มากมายหลากหลาย อาจารย์ยังคงยื่นส่งสิ่งดีงามให้เรา ในเรื่องราวทุกเรื่องกับ bcst ซึ่งมีแต่ความอุดมของความสุขผ่านเรื่องราวความดีมีมากขึ้นทุกวันตามวันเวลาของเรากับธรรมชาติป่าไม้ใหญ่เหนือจรดใต้





บนถนน มีร่องรอยน้ำขังตามถนนดินเป็นน้ำฝนเก่าสีแดงส้มขุ่น ฝนตกหนักในป่าแห่งนี้ ฝนมาก่อนพวกเราล่วงหน้า1 วัน และยังให้กำเนิดเมฆฝนกลุ่มใหม่ลอยกระจัดกระจายทั่วท้องสีฟ้า บ้านกร่าง กม15 ทุกคนต่างเดินตามๆกันไป หน้าที่ของทุกคนคือช่วยกันมองหานกป่าทั้งสองฝากฝั่ง กิ่งไม้หัก ต้นไม้ใหญ่ล้มข้างทางมีรอยเลื่อยยนต์ตัดทิ้งท่อนไม้กลมๆสั้นๆกระจายข้างทาง ใบไม้สีเขียวทั้งป่าหยุดนิ่งเงียบไม่ไหวติง ไม่มีเสียงร้องเพลงของนก เจ้าของเสียงเพลงหายไปไหน






ทางเดินรกร้าง กิ่งไม้เลื้อยเดินยื่นหาแสงแดดบนถนน พุ่มไม้ยื่นหาถนนเหมือนกันแม้กิ่งจะหักคาต้น บีบให้ทางแฉะแคบกว่าเดิม แสงแดดส่องทางให้พวกเราก้าวเดินไปสู่ทางสีแดดขาวเงิน บางช่วงแดดเปลี่ยนเป็นสีทองอมส้ม บางเงามุมเข้มมองเข้าไปก็เป็นสีทองอมแดง แต่ไม่มีนกน้อยบินไปมา ป่าแสนสวยทำตัวเงียบอะไรอย่างนี้เล่า ใบไม้ใบใดให้ที่หลบซ่อนพวกเจ้าเอาไว้ในฤดูป่าปิด

ปีกของเจ้าจะมีเสรีภาพเต็มที่ ในฤดูนี้ จะไม่มีรอยล้อรถคันใด นอกจากรอยเท้าของคนอย่างพวกเรา แล้วทำไมจึงเพิกเฉยการมาเยือน พวกเรารู้ความประสงค์ของจิตใจแต่ละคนว่า มาบ้านกร่างในหน้าน้ำฝนทำไม มาหาเพื่อหวังพบความสวยงามของพวกเจ้า ความงามนี้รวมทั้งกริยาท่าทาง ยามพวกเราเจอเจ้าที่กิ่งไม้กิ่งใด ความเป็นมนุษย์ทั้งหมดที่ทำได้คือพร่ำเพ้อบอกตัวเองซ้ำๆ น่ารักจังเลย รักมากนะ รักเสมอ รักตลอดไป


เวลาในป่าแห่งนี้ เดินไปพร้อมกับพวกเรา นกจาบคาเคราน้ำเงิน โผล่มาให้พวกเราร้องเรียกบอกต่อกัน เจ้าช่างบินเย้าหยอกให้พวกเราเดินตามต้นไม้ใหญ่ที่เจ้าบินสลับฝั่งซ้าย อีกครั้งก้าวเงียบๆเดินตาม เจ้าโผกางปีกให้มองตามชัดๆไปทางขวามมือบ้าง คนรักนกหน้าใหม่ ยิ้มอย่างสดชื่นเมื่อนกใจดี หันหน้าให้เห็นเคราขนนกอุยฟูหนาสีฟ้าสดสะท้อนแสง

บนยอดไม้ใหญ่โตมืดคลึ้ม เหนือหัวพวกเราไปข้างหน้าสูงลิ่ว เสียงนกคู่กู่ร้องหยาบๆดังลั่น อาจารย์อมรและอาจารย์รุ่งโรจน์ จำเสียงได้และพยายามชี้ให้พวกเราเห็น นกกาน้อย 2 ตัว ทุกคนยกกล้องหันหาตามเสียง กลุ่มพวงพุ่มใบไม้สีเขียวมืด ขยับใบแกว่งไปมา นกสีดำซ่อนตัวได้ดีมาก เสียงและใบไม้เขย่าเท่านั้นคือเรื่องราวทั้งหมดที่เจ้าให้เรามา แต่เราเคยเห็นเจ้าแล้ว น่าจะดีกว่า ให้อาจารย์ ทั้ง2 ช่วยกัน ชี้ บอกให้คนรักนกหน้าใหม่ ได้พบเห็นความงดงามของพวกเจ้า



วันนี้นกจำนวนมาก คอยกระโดดข้ามถนนไปมา โฉบกินผีเสื้อ (ผีเสื้อล่อนเตี้ยเคลียคลอกับแสงแดดที่ส่องสว่างลงบนถนน) asian paradise fc นกแซวสวรรค์ ทั้งตัวเมีย ตัวผู้สองสี สีน้ำตาลแดงหางยาว และสั้น เจ้าสีขาวหางสั้น และสีขาวหางยาว มากมายบินข้ามไปมาตลอดเส้นเดินชมธรรมชาติป่าแก่งกระจาน

เจ้า hainan blue fc กับตัวเราเฉพาะ คือสองชีวิตที่มองกันและกัน และเราไม่ได้มีเวลามากพอจะบอกเพื่อนๆว่าเจ้าอยู่ตรงนั้น เจ้าเลือกเกาะตรงนั้นทั้งมืดและรก การพบกันจึงสั้นมากเสียเหลือเกิน



asian paradise fc นกแซวสวรรค์อีกแล้ว หางสีขาวสั้น และหางสีขาวยาวทำให้ขบวนการดูนกระส่ำระสาย ที่เห็นหางขาวยาว ก็จะมองหาหางสั้นเพิ่ม แต่บางคนยังไม่เห็นทั้งสองหางเลย ก็คอยถามไถ่ ตรงไหนครับ ตรงนั้นไง เห็นไหมบินไปขวามืออีกแล้ว เกาะเถาวัลย์กิ่งนั้นไง



วินาทีแห่งการรอคอย เสียงของใครคนหนึ่ง black- back kingfisher นกกระเต็นสามนิ้ว ทุกคนแค่กลับหันหลังมองในป่าข้างหลังตัวเอง ไม่เกิน 5 เมตร เถาวัลย์ครึ่งวงกลม ใหญ่ไม่มากแต่แข็งแรงเกินพอ ให้เจ้าเกาะอย่างมั่นคง และลึกลงข้างล่างของเจ้าคือธารน้ำใสไหลเลี้ยวยาวสู่บ้านกร่าง



อาจารย์รุ่งโรจน์เรียกเรา ตรงนี้เห็นชัดมากและกวักมือเรียกให้เราเข้าไปยืนตรงตำแหน่งนั้นแทน และมอบนกตัวนั้นให้เราผ่านนิ้วมือที่ชี้ไปตรงนกตัวเล็กๆ เกาะโดดเด่น…… และทั้งหมด….นกสีรุ้งเจ้าของดวงตาดำแวววาว เจ้าคือนกแห่งลำธารสวรรค์….. ข้างหน้า ภาพความฝันแสนมหัศจรรย์ กลับมาอีกแล้ว กี่ครั้งที่เราพบเจ้า เราไม่สามารถหันกล้องไปมองทางอื่น ไม่เมื่อยแขนที่คอยยกกล้องจดจ้องเก็บภาพเจ้าทุกขนไรปีก กี่สี ที่มีปรากฎบนตัวเจ้า เหนือคิ้วมีเส้นสีดำเล็กเรียวเข้มคาดตามหน้าผาก คือมงกุฎของเจ้าหรือ เสียงลั่นชัดเตอร์ของใครหลายคน เสียงพูดคุยของคน

นกสีสวยตัวจ้อยบอบบาง เจ้าเลือกทำ คือการให้ห้วงเวลาความงดงามตราตรึงด้วยการยืนนิ่งนาน เงียบ และเฉยอย่างที่สุด พวกเราผู้ถูกธรรมชาติเลือกให้ดั้นด้นตามหาเงาปีกนกป่า เจ้าไม่ได้ให้ความสนใจเสียงชัดเตอร์ ไม่สนใจคนที่เดินสลับหามุมมองเจ้าให้ใกล้ กว่าเดิมเสมอ

เจ้าสร้างความพอใจให้มากแก่ทุกคนเท่านั้นหรือ ไม่ใช่มีมากกว่านั้น เจ้าค่อยๆคลี่ปีกออกเหยียดทั้งสองข้าง ปีกสีน้ำเงินอมคราม ขนปีกมันวาวเรียงจากสั้นไปยาวอย่างมีระเบียบ ยกปีกขยับขึ้นและลงอย่างช้าๆและตามด้วยการกระพืออย่างแรง…. แรงขึ้นแรงขึ้น ก่อนปีกงามแข็งแรงคู่นั้นจะพาร่างเจ้าหายไป



เราเห็นอาจารย์อมรยิ้มอย่างมีความสุขกับกล้องวิดีโอตัวเล็ก และเรียกเรา กุ้งเข้ามาดูภาพนี้ เวลาพาภาพวิดีโอเคลื่อนไหวอย่างชัดแจ่มติดตา ภาพกรีดปีดและกระพือซ้ำช่วงสุดท้ายของการอำลาแสนงามของนกกระเต็นสามนิ้วหลังดำ ยิ่งใหญ่สุด ๆ เหมือนการปิดกีฬาโอลิมปิกเกมส์ที่ปักกิ่งเลย อาจารย์คนดียังเรียกคนอื่นๆมาดูแล้ววนฉายซ้ำๆให้เพื่อนดูนกชื่นชมกันทุกคน

เวลาของเรากับป่าบ้านกร่าง และอาจารย์ทั้งสองท่าน กำลังถึงสุดทางแล้ว แต่เรื่องสำคัญอีกอย่าง ควรบอกเล่าให้ทราบ เพื่อเตือนตนเองให้จดจำและเก็บไว้อย่างรู้คุณค่า หลายคนต่อหลายคนเมื่อเลือกรักนก เดินตามหาชีวิตเหล่านี้ กลับกลายว่า นกทั้งหลายบินเวียนมาและเราได้รักนั้น ต่างมอบพลังบางอย่าง เปลี่ยนช่วงชีวิตที่เหลือและกำลังก้าวต่อไปของตัวเอง พลังสำนึกรักกระตือรือล้นกระทำเรื่องดีตอบแทน เพื่อนกแสนรักและธรรมชาติของนกนั้น

บางคนไม่เคยเล่า แอบเก็บทำเรื่องน่ายกย่องอย่างเงียบๆ คุณป๋อง พญาไฟแห่งราชบุรี คือก้าวแรกที่สำคัญที่สุด ก้าวอีกครั้งเป็นก้าวของสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย เสียงของอาจารย์ อมร อาจารย์คิดไว้ว่า ทุกครั้งที่สมาคมจัดทริปดูนก จะนำรายได้บางส่วน มาช่วยเหลือเจ้าหน้าที่อุทยานแก่งกระจานที่มีรายได้น้อย คุณจินสมาชิกชมรม ได้เอ่ยเสริมว่า จินยินดีช่วยเหลือด้วยค่ะ เต็มใจอย่างมากค่ะ



เสื้อยืดกองทุนหน่วยลาดตระเวณป่าแก่งกระจานเขตพื้นที่ 3 …..แปลงเป็น ของฝากจากบ้านกร่าง วันนี้เริ่มสร้างรายได้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่อุทยาน เรามีเรื่องต้องโทรบอกคุณจินแล้วว่า ความฝันของคุณจินเป็นจริงแล้วค่ะ

สิ่งที่เขียนมานี้ ผู้เขียนเขียนด้วยความรู้สึกเป็นสุข ได้เคารพ ได้เป็นเพื่อน ได้เดินดูนกด้วยกัน ยามคิดถึงก็มีเรื่องสวยงามเบิกบานหัวใจเสมอ
คุณป๋อง พญาไฟ แห่งราชบุรี ผู้ก่อกำเนิดก้าวแรก
อาจารย์อมร ลิ่วกีรติยุตกุล กรรมการสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย ผู้สานต่อจากเรื่องดีมีค่าให้ขยับขึ้นอีกครั้ง
คุณจินตนา หย่างอารีย์ บริจาก 10.000 บาท เป็นต้นทุนของฝากจากบ้านกร่าง