วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2551

อินดี้









อินดี้ เราพยายามจะเขียนถึงอินดี้อีกครั้ง หลังจากข้อมูลหายไป เราไม่แน่ใจว่าจะเขียนได้จบหรือเปล่า ไม่แน่ใจว่าจะเขียนได้เหมือนเท่าของเดิมหรือไม่ รู้แต่ว่าเรามีหน้าที่ต้องเขียน ก่อนที่ความทรงจำของอินดี้จะเลือนหายไป ไม่ใช่เราไม่คิดว่าความรักจะเลือนหายไป ถ้าอย่างนั้นทำไมเราต้องพยายามรื้อฟื้นความทรงจำของอินดี้เก็บเอาไว้ หรือเพราะว่าอินดี้คือส่วนหนึ่งของรอยจำผาด่าง คงเป็นเหตุผลของความจริงนี้


อินดี้หมาพันธุ์ เยอรมันเชิพเพอด เกิดเมื่อ10 ปีที่แล้วและเป็นตัวเมียสุดท้อง อินดี้ ผู้สวยงามขนยาวสีทองสลับแลบดำ ท่างทางปราดเปรียว และฉลาดสุดๆในครอก ที่มีทั้งหมด 6 ตัว เมื่อเราย้ายบ้านมาอยู่ที่ผาด่าง อินดี้คือตัวสุดท้ายที่เลือกเป็นผู้จากไปเป็นตัวสุดท้าย



วันนั้นของต้นเดือนกุมภาพันธุ์2550 พวกเราเข้าป่าห่างจากผาด่าง 4 กิโลไปทางพุอ้อ หนองมะค่า และแน่นอนอินดี้ไม่ยอมพลาดโอกาสที่จะตามพวกเราไป และแน่นอนอีกเหมือนกันเราต้องมีหมาไปด้วย ครั้งนี้ก็เหมือนกัน





เกือบเย็นแล้วก่อนที่เราจะออกจากป่า งูจงอางกับกลุ่มของเรา กว่าจงอางจะสิ้นฤทธิ์ด้วยน้ำมือพวกเรา อินดี้ก็โดนกัดที่ปาก ขณะที่กำลังนัวเนีย ทั้งงู ทั้งคนและหมา อินดี้โดนกัด ปากเป็นรอยทากเขี้ยว เลือกสีแดงสดไหลทะลักเป็นระลอก และเป็นลิ่ม พิษงูจงอางวิ่งไหลเข้าร่างกายอินดี้ โชคดีอย่างมากที่สุด ปากทำให้เลือดไหลลงไม่ไหลทวนแต่ก็ทำให้อินดี้งง พิษกำลังฆ่าอินดี้อย่างช้าๆ






เราวิ่งมาที่ผาด่าง ขาที่กำลังวิ่งเหมือนเป็นก้อนหิน ทั้งหนัก ทั้งหนืด เวลาเหมือนกับนานแสนนาน กว่าเราจะเอาอินดี้ขึ้นรถไป หาหมอที่อนามัย คุณหมอชื่อสาลี่แสนดีบอกว่าไม่มีเซรุ่มให้ไป โรงพยาบาลแก่ง และสำทับเราว่าให้เลือดไหลให้มากที่สุด อย่าพยายามหยุดเลือด และอย่าให้อินดี้หลับช่วย เขย่าตัวให้ตื่นไว้ เมื่อถึงโรงพญาบาลแก่งกระจาน คำตอบเหมือนกับที่อนามัยหนองปืนแตก เซรุ่มไม่มี ให้เรามาโรงพญาบาลท่ายาง

แต่เหมือนเดิมที่โรงพยาบาลท่ายาง คำตอบและเหตุผลเหมือนเดิมมากๆ จนเราคิดว่า นี่คือเส้นทางจบชีวิตของอินดี้หรือ เราพยายามโทรศัพท์ ถึงคลีนิกประจำตัวของอินดี้ หมอบอกว่า คลีนิกฉีดเซรุ่มให้ได้ แต่ต้องนำเซรุ่มงูจงอางมาเอง และเซรุ่มมีที่โรงพญาบาลประจำจังหวัดเท่านั้น







เราฝากอินดี้ไว้ที่คลีนิกหมอวัชระและเดินทางไป โรงพญาบาลพระจอมเกล้า ที่โรงพญาบาลมีเซรุ่ม มีความหวัง แต่คุณหมอโรงพญาบาลพระจอมเกล้า ดับไฟชีวิตอินดี้ด้วยเหตุผลไม่สามารถจำหน่ายเซรุ่มให้หมาได้ ตัวของเราเลอะเปื้อนเลือดของอินดี้ ความโทรมจากชุดชาวป่าคงไม่มีปัญญาซื้อเซรุ่มหรือเหตุผลอื่นของคุณหมอ เราลงทุนอ้อนวอนคุณหมอ โกหกคุณหมอว่าถ้าไม่มีอินดี้ ก็คือเราที่เจ็บป่วย คุณหมอบอกว่าถ้าอย่างนั้น ให้เราหาใบสั่งยาเซรุ่มมา เราจะไป หาที่ไหน ใบสั่งเซรุ่มให้หมา นี่คือทางตันอีกแล้ว เวลาของอินดี้ขึ้นอยู่กับการคิดและการกระทำของเราเท่านั้น





สุดท้ายเราย้อนกลับมาที่คลีนิกที่ฝากอินดี้ไว้ ลงทุนอ้อนวอนคุณหมอที่เคยผ่าตัดช่วยชีวิตอินดี้ ขอให้ตัวคุณหมอคือใบสั่งแพทย์ เราพาคุณหมอรักษาสัตว์ ย้อนกลับมาที่โรงพญาบาลพระจอมเกล้า คุณหมอสัตว์คุยกันนานมากกับคุณหมอคน และสุดท้ายคุณหมอคนอนุญาตให้เราซื้อเซรุ่มได้แค่ 10 แกรมเท่านั้น (10แกรม ราคา800 บาท) เราทั้งคู่เดินบ้างวิ่งบ้าง เมื่อมาถึงโรงพญาบาลอินดี้ ยังคงรอเราอยู่ หลังจากฉีดยาแล้ว คุณหมอบอกให้เราหาเตรียมไว้อีก 10แกรม เพื่อพรุ่งนี้เช้า เสียงโทรศัพท์จากเพื่อนๆที่รู้ข่าวช่วยกันโทรเข้ามาว่ามีเซรุ่มงูจงอางที่โรงพญาบาลราชบุรี เราเตรียมเรื่องโกหกกันในรถ เพราะคิดล่วงหน้าว่าถ้าเป็นหมาที่ต้องการ เซรุ่ม อาจต้องเจอปัญหาเหมือนกับที่โรงพญาบาลพระจอมเกล้า

จากเพชรบุรี ถึงราชบุรีไม่ไกลมาก ไม่ถึงชั่วโมง เราเดินทางมาถึงโรงพยาบาลราชบุรี เสื้อที่เปื้อนเลือดและท่าทางโทรมสุดๆของเรา คงจะฟ้องพญาบาลที่ยืนตรงเคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ ทุกคนหันมามองเราและเรียกชื่อเรา คุณวิรงรองใช่ไหมค่ะ เรางงมากๆ และเสียงตามมา อินดี้เป็นอย่างไรบ้าง น้ำตาเหมือนท่อประปาแตก เราร้องไห้เหมือนเกิดมาไม่เคยร้องไห้มาก่อนในชีวิต ทุกอย่างที่หนักอึ้งถูกถอดวาง ความสุขและคำขอบคุณไหลท่วมท้น พูดอย่างอื่นไม่เป็น กล่าวแต่คำว่าขอบคุณค่ะ ขอบคุณ สุดท้ายคำของพญาบาลแห่งนั้น อินดี้โชคดีที่มีเราเป็นเจ้าของ

เช้าวันต่อมา เรารีบตื่นเดินทางมาที่คลีนิกแต่เช้าตรู่ คุณหมอพาเราเดินไปที่กรง อินดี้เห็นเราและรีบลุกขึ้น มือของเรา ลิ้นของอินดี้ ต่างสัมผัสบอกกันและกันว่ารักและคิดถึงเหลือเกิน หมอถามเราว่าต้องการเข้าไปในกรงหรือเปล่า เราพยักหน้าแต่ตามองแต่อินดี้ ในกรงเรานั่งลงมีอินดี้นอนหนุนหัว อินดี้มอบความสุข ผ่อนคลายและสบายใจให้ตัวเอง และให้เรา เราเองคอยเอามือลูบหัวอินดี้ไปมา ใจเราร้องรำพัน อินดี้ เอ้ย คิดถึงลูกเหลือเกิน รอดตายแล้วนะลูก


มาวันนี้ลูกรักก็จากไปแล้ว แต่เป็นการจากด้วยวัยชรา ลูกเกิดมาทำหน้าที่ของลูกได้ดีที่สุด ไม่มีสิ่งใดที่ขาดตกบกพร่องเลย คำพูดที่ว่า หมาทุกตัวที่ตายแล้ว ขึ้นสวรรค์หมดทุกตัว คงจะต้องเป็นความจริงอย่างแน่นอน แม่คนนี้ขอให้เราได้เกิดเป็นแม่ลูกกันอีกนะ







อนามัยหนองปืนแตก
โรงพญาบาล แก่งกระจาน
โรงพญาบาล ท่ายาง
โรงพญาบาล พระจอมเกล้า
โรงพญาบาล ราชบุรี
โรงพญาบาลเพชรรัตน์
โรงพญาบาลเพชรบุรี – ธนบุรี
คลีนิกเอกชนรักษาทั่วไป
คลีนิกสัตว์ท่ายาง
คลีนิกหมอจำรัส(สัตว์แพทย์)
คลีนิกหมอวัชระ(สัตว์แพทย์)




วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2551

นกพญาไฟ small minivet




28/4/51 บ้านเยาวพรรณ

ต้นมะม่วงข้างโต๊ะคอม มีเสียงที่ทำให้เราหันไปมอง นกหนึ่งคู่ ตาของเรา...ใจของเรา...เบิกโตด้วยความตื่นเต้น


นกพญาไฟขนาดเล็ก สองตัว ตัวผู้สีส้มเหลือง กับอีกตัวสีเทาๆ เห็นแค่ด้านหลีงเพียงแว๊ปเดียว นกปรอดสวนตัวโตกลับไล่ตีจนนกคู่สีแดงไฟแตกกระเจิง จ๊อบคว้ากล้องส่องหาตามต้นลูกหว้า ตามต้นกระท้อน หรือต้นมะขาม กลับไม่พบแม้เงา หรือเสียงร้องกระซิบ

วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2551

Dance of the wings wind. รอยจำผาด่าง17


ชอบนกตอนพองตัวฟูขนบาน

แต่อีกที หลงรักนกตาดำแป๋วแหวว

เพลิดเพลินกับลีลาเดียงสา

แต่บางครั้งทำท่าเหมือนงอนปนโกรธนิดๆ



22/4/51
เก๋เล่าให้ฟังว่าเห็นแต้วแล้วธรรมดา ยอดเสริมว่า เห็นเดินและบินแถวลานกางเตนท์ ตัวเราเองและจ๊อบก็ได้ยินเสียง ความดีใจแผ่ลึก บ้านผาด่างทำให้เธอเลือกกลับมาวางไข่ พร้อมกับชีวิตคู่อีกหน
23/4/51เมื่อเราเดินเข้าทางเดินปูนเล็ก ต้นไม้เริ่มเป็นสีเขียวคลื้ม ฝนสร้างชีวิตให้ต้นไม้ในผาด่าง เสียงทักทายที่ได้ยินไม่บ่อยนัก แต่ทำให้เราหยุดก้าวเดิน เราหันถามจ๊อบว่า เสียงนกอะไร จ๊อบบอกว่า นกกางเขนดง จริงอย่างที่เราคาดไว้แต่ไม่แน่ใจ
24/4/51 เสียงเพลงที่ไพเราะที่สุดที่เราเคยได้ยิน เมื่อมองตามตัวผู้แค่แกล้งแอบ แต่ไม่ทั้งหมด เธอต้องการให้เราได้พบด้วย พลางให้ตัวเมียซ่อนลึกกว่า และวันนี้เธอทั้งคู่บินผ่านระเบียงไปมา มีเราเป็นเพื่อนเจ้าในบ้านเดียวกัน
ตกบ่าย เราพบยอด ยอดเสริมว่า นกกางเขนดงชอบอยู่ตรงต้นมะขามเทศต้นหวาน
ตรงต้นประดู่กิ่งอ่อนวัยเด็ก มีผึ้งคอยวนเวียน ทุกคนที่เดินผ่านมักพบเจ้าผึ้งไล่ตอม นึกไปนึกมา พวกเราเองเป็นฝ่ายกวนเจ้าผึ้งน้อยก่อนทุกที

วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2551

สัณญานภาพและเสียง


เราถูกกำหนดเดินและทำอย่างนี้กับชีวิตน้อยปลายปีก

นกมาหาเราหรือเรามาตามหานก

ทุกที่ทุกก้าว มีสัณญาณรอเราค้นพบ
เราคิดว่า....ตรงกิ่งนั้นของต้นที่มีผล....อาหารของนกน้อย

เราคิดว่า....แปลงหญ้าน้ำชุ่มที่มีไส้เดือน

เราคิดว่า....หรือตรงแอ่งน้ำตื้น และแสงแดด

หรือเหล่านี้คือสัณญาณจากธรรมชาติคอยส่งเตือนเราใช่ไหม

เราเหล่าผู้ทำงานให้ธรรมชาติ

คือผู้มีหน้าที่รับสารและแปลให้ออกเพื่องานอารักขาไม่มีวันสิ้นสุด

วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2551

Angle's calling me.



ทุกค่ำคืนฉันรอให้ผ่านไป ใจรู้ว่าเมื่อใดแสงตะวันขึ้นทาบฟ้า
ฉันจะเดินออกไป.....หา...เธอ...นกน้อย
นกทุกตัวที่จะมาปรากฎตัวให้เราพบกันอย่างนี้ตลอดไป
เมื่อใดแสงตะวันขึ้นทาบฟ้า....
เมื่อใดแสงตะวันขึ้นทาบฟ้า...
นกทุกตัวที่จะมาปรากฎตัวให้เราพบกันอย่างนี้ตลอดไป
march 27,2008. จ๊อบพูดเบา นกพญาปากกว้าง ตัวนี้โฉบเกาะต้นไม้ใกล้ๆตาให้ยืนชมเชย นกมองเรา นกไม่รู้ว่าเรายิ้มให้เค้าด้วย นกไม่มียิ้มตอบให้เรา แต่เมื่อนึกพิจารณา นกมอบความสวยงามที่ลึกล้ำค่า แต่งแต้มหัวใจเราอบอวลด้วยความสุข และความสุขนั้นกลายเป็นรอยยิ้มตอบแทนกลับคืน นี่เราเป็นมนุษย์ ที่รอรับอีกแล้วหรือจึงคืนให้
2008,26,march เย็นมากแล้ว ถ้าตะวันพาแสงสว่างจากไป เราคงต้องพาทุกชีวิตออกจากป่านี้ พากันกลับคืนผาด่าง แล้วเจ้าก็ปรากฎกายยืนเด่นยอดไม้สูง กล้องและมุมที่เรายืน ช่างย้อนแสง แต่เมื่อเป็นการพบกัน ความรักเจ้าทำให้เราตกลงไปในวังวน คุยกับนกป่าสวยตัวนี้ด้วยสายตา และหัวใจ
ทุกปีที่ป่าแห่งนี้ ป่าแก่งกระจาน เธอยังคงทำหน้าที่เพื่อนแสนดี มอบความรู้สึกพิเศษทุกครั้งยามพาร่างโบยบินข้ามฟ้า ข้ามป่า มากับพี่น้องและคู่ชีวิตให้ราได้พบกันและกัน ขอบใจและขอบคุณ
วันนี้เราย้อนลำรึกถึงวันพิเศษ ครั้งแรกของพวกเจ้ากับเรา กลางป่าลึกอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ประจวบคิรีขันต์ บนโขดหินก้อนใหญ่ กลางลำธาร เรานอนบนหินเย็นก้อนนั้น นอนดูพวกเจ้าช่วยกันคาบเศษใบไม้ใบหญ้าช่วยกันสานสร้างรัง ยกมือขึ้นนับก็เป็นสิบปีที่ผ่านไป แต่พบว่าหัวใจเรายังมีความรักให้เจ้าไม่เสื่อมน้อยลดลงเลย

วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2551

นกตาฝาง

ห่างด่านไม่ถึง1 กิโล จุดขายตั๋วอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน บนถนนเรียบร่มรื่น สองข้างทางของต้นไม้ยืนเอนส่งเทวภูตในร่างเงาไม้ใหญ่นอนทาบพื้นถนนยาวสุดโค้ง และต่อออกไปเรื่อยและเรื่อยไป รถของเราวิ่งทับเงาไม้

ในรถ….หน้าของเราเกือบแนบกระจก มองป่าข้างหน้ามุมสูงสุดไกล สายตาของเราโอบกอดป่าไว้อย่างรักและคิดถึง ต้นไม้สองข้างทางยืนสบายๆให้ลมบนวนโอบ และยอดใบสูงใกล้ตายืนนิ่ง ไม้พุ่มรกระดับต่ำกว่าลงมา มีนกปรอดเหลืองหัวจุกบินข้ามถนน ไปหนึ่งตัว ไปรออีกตัวที่กำลังบินตามไปสมทบ และอีกตัวเรานับในใจ… สาม…สี่




จอดรถทำไมเหรอ ผมเห็นนกตายครับอากุ้ง บนเกือบกลางถนนตามสายตา มีนกตบยุงนอนตาย สถานที่แห่งนี้คืออุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าตัวนี้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมาย มีชีวิตที่เกิดและอาศัยที่แห่งนี้เป็นบ้าน แต่…ต้องมาประสพชะตาถูกปลิดชีพในบ้านตัวเองโดยแขกผู้มาเยือน เมื่อมองใกล้ๆ นกเพิ่งตายไม่นาน รถขับชนนก หรือนกบินชนรถ ขนนกสีน้ำตาลลายปลิวไหวน้อยๆ แต่ลำตัวกลับนิ่มนิ่ง



ตัวนี้หรือเปล่าที่เรามักพบเจอกันบ่อยครั้ง ในบริเวณใกล้เคียงกันนี้ นกตบยุงเพื่อนแห่งกม 2 .ตายแล้ว นกตัวนี้ไม่ได้ทำท่าแกล้งหลับตา นกตายแล้วจริงๆ

ในอดีต เราเรียกความทรงจำออกมา นกแห่งดวงตาฝาง แสงตะวันไม่ทำให้ดวงตางดงาม แต่แสงจันทร์ต่างหาก ดวงตาจะเจิดจ้าเป็นประกายทอแสงเฉพาะกับความมืดและแสงแห่งดวงจันทร์และหมู่ดาว



บนถนนแห่งนี้ เมื่อเราพบกัน เจ้าตัวลายน้ำตาลใบไม้แห้ง กับสายตามัวแดด ตาฝ้าฝางทำให้เจ้าบินได้แค่เตี้ยๆ และไม่ไกลเท่าที่ใจเตลิดบินหนี เมื่อไรเจ้าหยุดนิ่งลงพื้น เราลำพองเป็นฝ่ายวิ่งตามเจ้าไป เมื่อเจ้าขยับหนีโผบินไปข้างหน้า เราผู้ใจร้าย เป็นฝ่ายยืนนิ่งเขม่นมอง ว่าเจ้าจะล่อนลงตรงที่ใด และสุดท้ายเจ้าหนีลับหายเข้าเงาป่าหนามข้างทาง

เรื่องราวของเจ้า... วันนี้ ....จบลงแล้ว...... แต่ทิ้งบาดแผลลึกไว้ในใจเรา