วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Febuary 18 , 2009 รอยจำผาด่าง


BROWN SUMMER . ตื่นเช้าวันนี้ อากาศเย็นสดชื่น หลังกาแฟเราเดินมาหน้าร้านค้า ต้นละมุดกับต้นไทร พร้อมปลูก ต้นละมุดเราปลูกไว้หน้า ร้านค้า เพราะต้องอยู่ใกล้คนเพื่อดูแลใกล้ชิด

ส่วนต้นไทรกับเตยหนามป่าเราพากันลงไปตามลำห้วยก้านเหลือง วันนี้มองไปทางไหน ผิวดินต่างเป็นสีแห้งๆเหมือนฝุ่นแป้งสีส้ม


ยอดชายหนุ่มผู้จัดการกับหน้าที่ทุกอย่าง ในผาด่างลากสายยางอีกแล้ว ต้นไม้แต่ละต้นกินน้ำอย่างละโมบ น้ำไม่ไหลรินทิ้งเป็นทาง แผ่นดินสูบน้ำเข้าหารากไม้โดยตรง หญ้าสีน้ำตาลเป็นทุ่งสีทองแสงแดดช่วยเพิ่มความร้อนให้มากขึ้นตามเวลาของวันนี้กำลังเคลื่อนจากออกไปตก



เราคิดเองว่าตะวันตกแอบเลื่อนออกไปอีกนิด สำหรับเตาไฟวงกลมส่งคลื่นความร้อนแผ่เผาแต่ละวันอย่างอ้อยอิ่ง








พี่เปี๊ยกเก็บลูกชำมะเลียงสีม่วงมาให้เรา เราลองกัดดูฝาดมาก มีติดหวานนิดหน่อย ลูกกับสีเหมือนลูกหว้ามาก เรานึกถึงต้นของชำมะเลียง ยืนอยู่ข้างทางสู่โดม สูงแค่เมตรกว่า



แต่ออกลูกเป็นพวงระย้า มีแต่ลูกสีม่วงห้อยเป็นพวง ตั้งแต่ยอดไล่เรียงเกือบแตะพื้นดินแห้งกรัง



เสียงนกแอ่นพงร้องแอ๊ดๆ อยู่ไม่ไกล เสียงนกเหยี่ยวสลับแสนไกลและใกล้เข้ามา



ต้นไม้ป่าสูงใหญ่สะบัดฝักแห้งน้ำตาลอ่อน เสียงดังกราว เหมือนใครจับโยกโบก เราแหงนมองที่มาแม้ย้อนแสงก็ตาม ตาริบๆหรี่ พวกฝักแห้งแข็งกระแทกกันดังกราว ดังบ้างแผ่วบ้าง ยามลมมาช่วยสะบัดโยกฝักให้ตกลงพื้นดินฝุ่น ลมร้อน พัดฝักแห้งปลิวแตกกระจายรอบตัวและทุกย่างก้าว



เหล่าเสียงเพลงร้องขอ หากฝนยังไม่มา ฝากลูกหลานเราให้เติบโตบนแผ่นดินนี้ได้ไหม







ทุ่มกว่าแล้ว จ๊อบมาตามเรา มาอีกแล้วที่เก่าครับ แสงไฟกระทบดวงตาสีแดง ผมเห็นเค้าที่เดิม นกตบยุง night jar เราคว้ากล้องเดินตามแสงไฟชายหนุ่มร่างสูง




ลานเตยหนาม ใหญ่บนพื้นของใบไผ่แห้งร่วงหนา สีที่กลมกลืน ไฟสีแดง 2 จุด ตรงสีแดง เราตั้งสมาธิจ่อไฟนิ่ง ให้นิ่งที่สุด แต่ยิ่งจรดจ้องมือกลับสั่นไหว ใจคอยลุ้นเจ้านกตาฟางแพ้แสงไฟฉายจะถือโอกาสหลบหนี ด้วยตัวเราเองสะกดไฟฉายไม่นิ่งพอ



















Febuary 19 , 2008 อรุณเบิกฟ้าตะวันอ้อมข้าว จากที่นอน เรามองไปลานหญ้าต้นก้านเหลือง เหมือนแม่ไก่ เดินไป เดินมา เราไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน กล้องกับหนังสือ เจ้ามีชื่อว่า WATERCOCK ในหนังสือของหมอบุญส่งฉบับปรับปรุง เรื่องของเจ้าไม่ง่ายจะพบตัวเหมือนเมื่อสมัยก่อนๆ ทั้งน่าจะเป็นนกอพยพ ไม่ประจำถิ่นอีกแล้ว แต่ข้อมูลนี้ ยังไม่แน่นอน uncommon resdident สีของเจ้าในวันนี้บ่งบอกว่าเจ้าไม่อยู่ในช่วง breeding













อีกฝาก นกขนิ้นท้ายทอยดำหลายตัวเกือบ 10 กว่าตัวบินไปมา ผสมกับนกแซงแซวหลายตัวมาก ทำไมนกขมิ้นรวมตัวกันมากอย่างนี้ นี่คือเดือน กุมภาพันธุ์ นกกำลังอพยพกลับหรือ เราไม่สามารถสรุปเองได้ เพียงแต่เราสังเกตุ นี่คือหน้าที่ของเรา ทำหน้าที่ของคนที่อยู่ใกล้ชิดติดป่า ควรเก็บรวบรวมข้อมูลเรื่องราวเหล่านี้ เสียงอาจารย์อมรสอนกล่าว











นกกระจิบ2 ตัว บินมาหากินตรงเราล้างจาน หลานชายเราอดไม่ได้กับท่าเดียงสา






นกกระเต็นน้อยธรรมดา เกาะและร้องอยู่มุมเดิม ทักทายบ้านสีหมอกอย่างคุ้นเคย เรารู้ว่าการเดินทางไกลของเจ้ากำลังใกล้เข้ามา


เจ้าทำอย่านี้ ก่อนเรามาอาศัยแผ่นดินนี้เสียด้วยซ้ำ





เจ้า นกกระเต็นหัวดำ นึกว่าอยู่ไกล แต่ไม่ใช่ เจ้าอยู่ในกล้อง มุมโปรดของเจ้ากับมุมโปรดของเราแค่ตรงกันข้าม เท่านั้นนะ


อีกไม่นาน เจ้าจะร่วมบินกลับไปด้วยกัน ดินแดนญี่ปุ่นหรือดินแดนยุโรป
















































วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

หนทางลังเล JANUARY 4 ,2009




ห้องกล้วยไม้ TWS กับคนหนึ่งของผาด่างแคมป์

ทำไมเราเดินเข้ามาหาห้องนี้


เราคาดหวังอะไร

หวังพบ คนรักป่าเหมือนกัน รักต้นไม้ สายธาร หรือแม้เสียงกะซิบสายลม




ข่าวคราวธรรมชาติโดนทำลาย ทำร้าย ความเศร้าเป็นปฏิกริยาตอบสนอง




อาจเหมือนใครคนหนึ่งในห้องนี้ อยากทำอะไรก็ได้…ให้เรื่องเสียใจโหดร้ายมีจุดจบ


หวังพบ ผู้มีความรู้ ทางธรรมชาติ จริงใจอ่อนโยนพร้อมกรุณาให้ความรู้สื่อผ่านบทเรียน




สอนให้เกิดรู้จักพืชพันธุ์ สอนให้รักษ์พันธุ์ไม้ มากกว่าอาจารย์ท่านนั้นจะรักได้


ต้องการ อิสระจากอาชีพ สำคัญที่สุด คงเป็นหัวข้อนี้




ตัวเรามั่นใจจะได้ถอดดักแด้เพื่อบินเรียนรู้อย่างอิสระ




เราขอมีห้องสักห้องหนึ่งอิสระ เสรี


ไม่ใช่ชาวผาด่าง ไม่มีธุรกิจ หรือแฝงเป้าหมายทำมาหากินเป็นกาฝากของห้องนี้




เหมือนคนที่ถวิลโหยหาวันเสาร์ อาทิตย์



อิสระ กับความรู้สึกจริงๆที่เกิดขึ้นระหว่างจิตใจของเรากับธรรมชาติ




ผ่านตัวหนังสือ หรือรูปภาพ ในห้อง tws นำมาแลกเปลี่ยนเพื่อรับฟังเรื่องของเพื่อนคนอื่น




มุมมองชีวิตซึมซับธรรมชาติต่างมุม หรือข้อคิดที่แปลกแยกออกไป




แต่จุดสุดท้ายคือเพื่อธรรมชาติปลอดภัยเพียงอย่างเดียว


นี่คือสาเหตุแห่งความจำเป็น ต้องเขียนบางอย่างเพื่อสื่อให้เห็นถึงความจริงตัวตนของเรา ตัดสินใจ หลายๆครั้งและเปลี่ยนใจเสียหลายครั้ง จำนวนและเวลาพอกันพอกัน

เตรียมความกล้า ปะปนกับความลังเล เชื่อ ไม่เชื่อ กับเรื่องเขียน หมดหรือยัง เพียงพอหรือเปล่า และใช่ความจริงใช่ไหม




มีน้ำหนักเพียงพอกับอัตตาของแต่ละคนในห้องtws




(เสนอเขียนบรรยายเรื่อง ….บางคนในห้องนี้มีความคิดเห็นว่า คนเขียนอาจคิดเลยเถิดไปเอง หรือ นี่ไงปรกกฎตัวแล้ว )

เพราะอะไร เราต้องใช้ความกล้าสารภาพ ว่าเราคือใคร

ความกลัว เรานำตัวเองคนเดียวไปเสี่ยงกับธุรกิจท่องเที่ยว ที่ชาวผาด่างช่วยกันสร้างขึ้นมาไม่ใช่แค่เราคนเดียว แต่ชาวผาด่างทั้งหมด และเวบไซด์นี้เป็นเวบไซด์ นักท่องเที่ยวต่างให้ความเชื่อถือ


จึงเป็นเรื่องแสนจะเปราะบางมากและอันตรายกับชาวผาด่างที่สุด


ความละอาย หรือการยอมรับเห็นว่าตัวเองทำผิด




การเขียนทุกตัวอักษรจึงต้องใช้ความจริงเพียงอย่างเดียว และมีเพียงความดีเท่านั้นที่จะปกป้องเราได้

แต่การที่เราไม่รู้จักกัน ความดีต้องเกิดจากการเชื่อถือ ศรัทธา รู้จักในบุคคลผู้นั้น อาจทางสังคม ข่าวสาร และระยะเวลา



แต่สำหรับห้องนี้ เราเพียงผู้ผ่านมานานๆครั้งเท่านั้นเอง ยากมากเหลือเกินสำหรับเรา หลายคนในห้องเมื่อได้อ่าน

โปรดกรุณาอย่าให้แค่ตัวหนังสือของเรา เป็นคำตัดสิน


อิสระทางความคิดเห็นโดยมีธรรมชาติเป็นประสพกาณ์ให้เพื่อนในห้องนี้ล้วนคือบทเรียน ย่อมบอกแก่ตัวเพื่อนเองได้




เราควรได้รับมิตรภาพกลับมาหรือไม่


เราไม่ต้องการให้การเขียนของเราคือการแก้ต่างให้กับตัวเอง




แต่เราต้องการให้เรื่องที่เราจะกระทำต่อไปนี้และอนาคต ยืนอยู่บนเส้นทางสะอาด ไม่มีข้อสงสัย หรือเคลือบแคลง



ขอโทษ……ต้องการกล่าวคำขอโทษและบอกว่าเราเสียใจกับการกระทำของเราทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ การปิดบังตัวตนว่าคือชาวผาด่างคนหนึ่ง

tws แม้เป็นดอกกล้วยไม้ดอกเดียวโดนเด็จแยกช่อ
เราไม่ปราถนาอย่างยิ่งจะสร้างชื่อเสียง หรือใช้ความสามารถของคนสร้างtws




เกื้อธุรกิจของตัวเอง จากการปกปิดอาชีพของเรา


ขาดมารยาทการขอเข้าห้องเพื่อทักทาย ไม่ได้ขออนุญาติก่อน หรือปกปิดอาชีพ หรืออะไรที่ไม่งาม น่าสงสัยพฤติกรรมของเรากับธุรกิจ






ทุกคนในห้องนี้ย่อมสงสัยได้

ธรรมชาติเป็นเรื่องเปราะบางอ่อนแอฉันใด ห้องธรรมชาติห้องนี้ก็คงเช่นกัน

ห้องนี้ใช้ระยะเวลานานหลายๆปี การเดินทางของคนหลายคน ไปทุกที่ของป่าเขาลำเนาไพร ทุกฤดูกาลของดอกไม้บาน

ในทุกภาคที่รู้ว่ามีความยากลำบากสาหัส ตัวแปรเต็มเกลื่อนไปทั้งป่าแห่งนั้น


จะนำข้อมูลออกมาอย่างทะนุถนอมเพียงใด ให้มากที่สุดเท่าที่เวลาและความเป็นไปได้จะมีให้แค่ไหน

การเขียนตำรา แต่ละเล่ม หนังสือคือห้องเก็บเกี่ยวร้อยเรียงเรื่องราวของคนคนหนึ่งทุ่มเทพลังชีวิต

ความศรัทธากับชีวิตพืชดอกตามดิน ซอกหิน แม้เกาะยอดสูงของต้นไม้เปลือกหยาบสากเป็นร่อง

โซ่ตรวนที่มองไม่เห็นผูกคอ….. ล่ามไว้กับ…..สติสัญญาต่อสัตว์ป่า สรรพชีวิตต้นไม้ ทั้งสูญพันธุ์
บางอย่างปรากฎเป็นภาพสุดทรมาน แสดงอำนาจให้รู้จริง จงใจทรมานคนอนุรักษ์

กำลังบอกใคร หรือ คนของธรรมชาติในห้องนี้ เผ่าพันธุ์ของสัตว์ พืช หลายชนิด กำลังเดินถึงดินแดนแห่งกาลสูญพันธุ์ หายไปจากดินแดนเกิด เ ห ลื อ ชื่ อ




หมู่บ้านหุบเสือ เรื่องอดีตเป็นเงาลางหรือเรื่องเล่าบอกต่อ

ตัวคนเขียน หากวาดภาพเป็น หยดสีที่ปาดป้าย…..คือน้ำตาไหลรินต้องคอยปาดเช็ดให้ตัวเอง

แต่คนเขียน ตัวหนังสือทุกตัว เพื่อบอกว่า เราจะมีกันและกันแม้ถูกเน้นคือเรื่องเศร้า




หน้าที่ต้องเปลี่ยนเป็นเข้มแข็งยอมรับเพื่อทำงาน ไม่มีเหตุผลว่าสำเร็จหรือไม่




เวลาจบของงานจะมาเมื่อไร ใครจะเป็นผู้ร่วมทาง

คนนี้จะถือเอาเป็น twsคือแกนตัดสินใจ มีมติอย่างไร ในนามของคนเขียนจะรับไว้และคิดให้เสมอว่า




ห้องtws คือตัวแทนธรรมชาติ ธรรมชาติให้tws เป็นร่างส่งผลสรุปมาสู่ผู้เขียนอีกที





เรายอมรับหากธรรมชาติไม่ต้องการเรา เพื่อนำไปสู่คำตอบว่า เรายังทำงานให้ธรรมชาติไม่มากพอ





ตามหาธรรมชาติ




ธรรมชาติคืออะไร ความหมาย ความเข้าใจ ความเชื่อ ของแต่ละบุคคลแตกทิศแยกแขนงกว้างไกลเกินเชื่อมเข้าหากันได้หรือไม่

ที่มาของการรับรู้ของธรรมชาติ เรากำลังเปิดประตูแห่งความยุ่งยาก สู่การถกถามตัวตนจริงแห่งธรรมชาติ

จุดศูนย์อำนาจธรรมชาติคืออะไร


หน้าที่ของธรรมชาติกว้างใหญ่ครอบคลุมอิทธิพล

มีกี่ทางจะพาเราพบคำตอบ ตัวตนของธรรมชาติ

จิตวิญญาณ สัมผัสทางจิตใจคือหนทางถึงธรรมชาติ

หรือสมองกับระบบวิทยาศาสตร์คือคำตอบพิสูจน์ความจริงตัวตนธรรมชาติ ในจักรวาลนี้ใช่หรือ

จักรวาลประกอบไปด้วยอะไร จักรวาลเป็นอนูหนึ่งของธรรมชาติ

ทำไมดวงอาทิตย์ ถูกกำหนดให้มาในเวลาเช้า

พระจันทร์ สามารถมาเยือนให้เราพบเฉพาะ เมื่ออาทิตย์จากไปเท่านั้น

ทำไมเจ้าแห่งเวลาจึงเป็นผู้แสดงอำนาจ กำหนดทุกอย่าง

สมการหรือ ตรรกกะ เกิด พบ จาก จบ สำเร็จ และสู่การสูญสลาย

สมมุติว่าศูนย์กลางของอำนาจ ทั้งมวลแท้จริงคือกาลเวลา

เราเองยังครั่นคร้ามกับความคิดนี้ ไม่อาจยอมให้ใครเชื่อตามเรา

หากจักรวาลนี้ถูกควบคุมด้วยกาลเวลา ชะตาของสรรพวิถีเก็บไว้ในดวงดาวนพเคราะห์ทั้งหลายเป็น file ,folder .ใช่หรือไม่

หากเรายอมเชื่อ กาลเวลาคือศูนย์รวมคือธรรมชาติตัวจริง

มนุษย์เองก็ล้วนถูกกำหนดหน้าที่เช่นกัน หน้าที่ เพื่ออะไร ทำไม

สำคัญอย่างแปลกมากคือ บนโลกนี้ มนุษย์สามารถเพิ่มปริมาณได้เร็วมาก เหมือนเชื้อรา แตกสปอร์กันออกไป

ระหว่างทางของสรรพวิถีตามดวงดาว ต้องเริ่มด้วยสมการ การ เกิด พบ จาก จบ ค้นหา มีเป้าหมาย และสู่การสูญสลาย

ระยะเวลาของมนุษย์เริ่มขึ้น เมื่อเทียบระยะเวลาอายุของแกแลกซี่นี้

มนุษย์ยังอ่อนด้อยต้อยต่ำเกินจะเข้าใจวิถีจักรวาล

ตื้นเขินอย่างผิวเผินความซับซ้อนทุกอย่างล้วนเดินตามหมากรุกของกาลเวลา

ไฉนมนุษย์มีความกล้าหาญ มั่นใจ มุมานะ รอบรู้ ค้นคว้า ประดิษฐ์โยกย้าย

ด้วยความอัจฉริยะ มนุษย์เริ่มสนุกที่จะเริ่มสร้างสิ่งที่ควบคุมธรรมชาติ

นั่นคือก้าวแรกของคำตอบว่าทำไมธรรมชาติสร้างมนุษย์ขึ้นมา

คำตอบอีกข้อกำลังตามมา ความด้อย เดียงสาผสานความฉลาดพาให้หลงตนเองสามารถยิ่งใหญ่เท่าเทียมธรรมชาติ

ประตูเลห์กลกาลได้เปิดอีกบานใช่หรือไม่

กาลเวลา ธรรมชาติตัวตนแท้จริงตามความเข้าใจของคนเขียน

ยังไม่จบค่ะ กำลังหาหน้าที่ของมนุษย์อย่างตั้งมั่นในสติ







มนุษย์คิดอย่างหนักแน่นศรัทธา เราพบกัน รู้จักกัน รักกัน จากกัน เห็นต้นไม้ต้นนั้น

กล้วยไม้บานงามสะพรั่งช่อนั้น นกตัวนี้เราดั้นด้นเดินหา แมลงหายากพันธุ์ใหม่

มนุษย์คิดว่าการเห็นและบันทึกทำด้วยตนเอง คือผลงานของมนุษย์

อย่างอ่อนน้อมต่อธรรมชาติ หากเราคิดตรงข้าม ให้ธรรมชาตินำทางหรือเป็นใหญ่กว่าชีวิตของเรา

ธรรมชาติส่งนกตัวนั้นให้เรา ชี้ให้เพื่อนมองแต่ไม่ทัน กาลเวลาพาเจ้าบินไปก่อน

มอบกล้วยไม้ช่อสะพรั่งติดตา งามทั้งสีและแสง พร้อมเพื่อนผู้ชื่นชอบกล้วยไม้กลับมองไม่เห็น

มอบแสงตะวันสุดท้ายเพื่อคนหนึ่งคนได้กดชัดเตอร์เก็บแสงหล้าสีส้มแดงไฟไม่ร้อน แต่นุ่มนวล

และย้ำซ้ำๆ ไม่มีอีกครั้งตลอดกาลของชีวิตคนๆนั้น

ดอกไม้กำลังบานข้างทาง บางคนไม่เห็น แต่บางคนเห็น และบางคนเห็นอย่างแตกต่างและลึกซึ้งกว่าบางคน
นี่พอเป็นคำตอบหรือไม่








สัตว์ป่าอาศัยป่าต่ำจำต้องหมดไป เพราะไม่มีป่า จะมีสัตว์ป่าเก้งกวางทำไม

หน้าที่ของมนุษย์อีกเช่น กัน กำจัด สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์อีกต่อไป

เหมือนเสือกำจัดสัตว์กินพืช เพื่อสร้างสมดุลย์

สัตว์ป่าไม่จำเป็นต้องมีมาก เพราะมนุษย์จำเป็นต้องมีมากขึ้นเพื่อเร่งการทำลาย

กาลเวลาพามนุษย์ค้นพบน้ำตกสวยแห่งหนึ่ง

ทุกคนตื่นตากับน้ำตกแสนสวยด้วยความดีใจ เหยียบย่ำมอสเฟินจนแหลกพินาศ

การเหยียบย่ำเป็นฝีมือมนุษย์ สลายของความชุ่มน้ำ การจากไปชั่วนิรันดรของพืชชุ่มน้ำ

มนุษย์ต้องเรียนรู้ผลร้ายสลายล่มหายนิจนิรัน งานยังไม่เสร็จ น้ำตกรายต่อไป

กล้วยไม้ป่าดอกงามเล่าขานถึงความสวยงามยามชมป่า กลายเป็นตลาดของผู้อยากได้ครอบครอง

นกป่า กลาดเกลื่อนในห้องอินเตอร์เนท และสุดท้ายความจริงนกป่าเป็นเงินสดในตลาดขายนกป่าจตุจักร

ดำน้ำชมปลาทะเล กลายเป็นที่มา ปลาตู้ทะเล และประการัง

ล้วนสนองคำถามว่า ทำไมคนจึงทำลายธรรมชาติ

มนุษย์กลายเป็นไวรัสพันธุ์การเมือง ข้าราชการ

นักธุรกิจรีสอร์ท บางส่วนกลายเป็นนักท่องเที่ยว

ทุกย่ำก้าวในป่า แหวกว่ายในทะเล คือการทำลาย เพราะนี่คือหน้าที่ของมนุษย์









ถ้าหน้าที่ของมนุษย์คือการทำลายล้างโลก

โลกหมุนสู่การล่มสลายตั้งแต่เริ่มมีมนุษย์ใน อดีต

พบเห็นได้ง่ายใน ปัจจุบัน

สู่การล่มสลาย อนาคต รออยู่อย่างแท้จริง

ธรรมชาติไม่จำเป็นต้องใช้นักอนุรักษ์มากนัก

นักอนุรักษ์ คือนักประวัติศาสตร์เก็บความจริงทางวิทยาศาสตร์สู่สมองขับเคลื่อนโลกไปสู่จุดหมายสุดท้าย

นักอนุรักษ์ คือ ศิลปิน นักปรัชญา หน้าที่ กวาดต้อน เก็บความขมขื่น เศร้าสะเทือนอารมณ์

เพื่อให้เรื่องเหล่านี้ แสดงพลังมากพอ จนเกิดคำถาม…….คำถามที่ยิ่งใหญ่






ทำไมธรรมชาติมอบหน้าที่โหดร้ายที่สุดแก่มนุษย์

พร้อมวนเวียนกับความทุกข์แสนเศร้าเสียดาย

บทเรียนอะไรซ่อนเป็นปริศนา ที่ยังไม่รู้อีกมากแค่ไหน

หรือนี่คือหนทางหนีของการบงการเจ้าแห่งเวลา

คิด ปฏิบัติอย่างไร หากเราถึงเวลาล่มสลาย

มีผู้รอดสามารถอยู่เหนือกาลเวลาได้หรือไม่

ปรินิพาน คือ เหนือกาลเวลาใช่หรือ

วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Beautiful days


Beautiful days, the sun can touch of all flowers .

Just they look to the east sky .

Inside - deeply room waits their friend , birds and butertflys to come .

early morning till the moon has give times for sleep.

that is the simple happiness

only tell someone can feel, this secret of their life, greens leaf.

no voice, show spirit of life by freshly colour to some eyes.

emerald forest


So everything in this world try to be wrong , slow and slow.
Power's emerald forest isn' t really?
Who can dare to tell , old harded destiny of its .
Next generration asksed, why everythings power moves.

วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

สัญญา










Nature is friendly and give someone that your request.

บางทีผาด่างแคมป์อาจเป็นเพื่อน ช่วยตอบเรื่องนี้ให้คุณได้นะค่ะ
padangcamp.com
tel.081- 8126625 ลุงเปี๊ยก , 086- 6171208 ยอด

จากอนุชนสู่อนุชน แม่น้ำเพชรกำลังร้องไห้ พวกเราได้ยินกันตลอด หลายแห่งกำลังอดอยาก หินทุกก้อนแห้งผาก ปลาแหวกว่ายหายไป







ใบไม้ต่างสีเคยพายเล่นไหล ให้สายน้ำกับสายลมร่วมสนุกกัน เป็นเสียงหัวเราะเบาๆ มีเสียงลมของเหล่าไม้สูงเอนไหวโยกไปมาเป็นกองเชียร์อยู่เบื้องบน และใบสีแดงสดใบนั้นเข้าเส้นชัยที่ขอนไม้ใหญ่นอนขวางกลางลำน้ำไม่ไกล





สายน้ำของเราเอง ความฝันอยากทำรีสอร์ทของตัวเอง แต่ยังไม่มีเวลาว่างเลย ฝันอยากรักษาทะนุถนอมหวงแหนแม่น้ำสายนี้ ไว้สุดกำลังของชีวิต




เวลาว่างลงไปหา
บอกกับแม่น้ำนี้เสมอ วันหนึ่งเราจะขอมาอยู่ด้วยกัน จะดูแลเธอให้ นี่คือสัญญา