
September 4, 2008 เช้ามากๆแล้ว เจ้าภูเขากับต้นน้ำอายุ 4 เดือน หยอกล้อเล่นกันตลอดทางเดินไปห้องอาหาร พันแข้งพันขา กัด คำราม เรารู้ว่านี่เป็นการแย่งชิงความเป็นผู้นำฝูง บางทีก็งับขาเราเข้าไปด้วย เจ้าต้นน้ำขนวัยเด็กกำลังหลุดไปทีละนิด ขนสีดำบนหลังแทรกขึ้นแทนขนเก่าอย่างช้าๆ ขนใหม่นี้ ยาวดำมัน ลื่นและขดเป็นหยักโสก

ในห้องกาแฟ ชาวผาด่างกำลังจับกลุ่ม คุยเรื่อง astv เรื่องราวของการขับไล่รัฐบาล นายกสมัคร กำลังเข้มข้น ชาวบ้านเล่าเรื่องและถามไถ่ว่าเราไปชุมนุมกันบ้างไหม ตกบ่าย เราเริ่มทยอยขนเครื่องเรือนเข้าบ้านหลังใหม่ นกblack – napped monarch บินมาทักทายเราใกล้ๆ เรานอนมองนกตัวนี้และคิดว่านกเองก็มองเรา

เชือกเส้นยาวจากฝั่งสู่ตอไม้กลางน้ำ เจ้ากระเต็นน้อยธรรมดาเกาะนิ่งหันหลังให้เรา บ้านของเจ้า อาณาจักรผาด่าง ลมแกว่งเชือกไหวเบามากและตอนนี้เชือกเปลี่ยนเป็นชิงช้าให้นกกระเต็นน้อยธรรมดายืนเกาะร้องเพลงของเธอ ผิวน้ำกับสายลมสบายๆร่วมกันเต้นรำ
September 5, 2008 จ๊อบยืนมองไปบนต้นมะขามและทำสัญญาณให้เราค่อยๆย่องเข้าไป เสียงที่ค่อยๆบอก นกกาฝากท้องส้ม และมีหลายตัวมากด้วยครับ เราชะเง้อคอมองหา นกตัวเล็กๆหลายตัวกำลังกระโดดไปมาบนกิ่งมะขาม ท้องสีส้มแจ๊ด สะดุดตา แต่เจ้านกนิสัยไม่อยู่นิ่งการจ้องหาจึงทำได้แค่ช่วงสั้นๆ และไม่นานเราและนกฝูงนั้นก็แยกบินไปออกันอีกต้นที่ทัดไป แต่ไกลจากสายตาเราเสียแล้ว

September 9, 2008 เจ้าภูเขา เจ้าต้นน้ำ วิ่งมาหาเรา กับอาการของความดีใจ เมื่อเรากลับถึงผาด่าง เราสวมกอดสองชีวิต กอดกันและกอดกันอย่างแน่นๆสมกับความคิดถึง เพื่อบอกว่า รักนะ กอดนี้คือความรักนะ
บนเรือนหลังใหม่กับชื่อบ้าน ที่ยังไม่มีชื่อ ยอดกับพี่หวัด กำลังตอกกิ๊บเดินสายไฟ เราตั้งคำถามเดิมๆ ฝนตกบ้างไหม ยอดบอกว่า ตกตอนเย็นเมื่อวานจน 2 ทุ่ม เสียงพี่หวัดเอ่ยตาม น้ำในอ่างขึ้นมาเกือบคืบแล้วน้ำป่าที่นอนนิ่งในอ่างน้ำเบื้องหน้า แค่น้ำฝนสูงขึ้นมาคืบเดียวชาวบ้านป่ายังมองออกและใส่ใจ เราอดกังวลต่ออนาคตอีกไม่นานนี้ ฤดูฝนมีให้อีกแค่สองเดือนเต็ม แต่น้ำในอ่างเพิ่งขึ้นมาแค่คืบเดียว

September 10, 2008 แต่เช้า ห้องกาแฟ รสชาดของกาแฟ กับข่าวของอัญชลี astv เด็กหญิงนกน้อยกำลังแต่งตัวไปโรงเรียน มีตาโมน ตาแท้ๆ จัดแจงแต่งตัวให้หลาน เก๋แม่ครัวให้สตางค์5 บาท ใส่ลงกระเป๋ากระโปรงและเอาหนังยางมัด กันการสูญหายอย่างแน่นหนา ชุดนักเรียนที่สวยที่สุดในใจเราของเด็กน้อยตาแป๋ว (พ่อและแม่แยกทางกัน ตาและยายต่างแยกทางกันตั้งแต่ยังไม่สองขวบ) อาศัยกับเราร่วมเป็นชาวผาด่าง เรื่องราวของเด็กน้อย คุณอ้วนยินดีให้เรานำเงินจากกองทุนจัดซื้อชุดนักเรียนให้เด็กหญิงคนนี้ด้วย

September 11, 2008 ในห้องครัวยามเช้า ไอ้ยุงนั่งกบพื้นหันหลังให้เรา กำลังทำอะไร ไอ้ยุงตอบเสียงสดใส แกะตัวอ่อนในรังต่อจ๊ะพี่กุ้ง เราบอกว่าไม่เอาดีกว่าเคยกินแล้วรสชาดอร่อยดี คล้ายๆกินนมผึ้ง แต่พี่กุ้ง แพ้ตัวต่อกินแล้วมีอาการคันปาก คันในลำคอ

สายแล้วบนบ้านไม่มีชื่อ นกป่าสีสวยไม่มาหาไม่ยอมร้องเรียก ท้องฟ้าสีหม่น หมู่เมฆสีหมอกลอยเคลื่อนต่ำลงอีกไม่นานคงเปลี่ยนตัวเองเป็นสายฝน และพรมลงมาอีกแล้ว เราก้มหลังมือกำผ้าขี้ริ้วถูบ้านด้วยมือจากซ้ายไปขวา และขวาไปซ้าย ถูทีละแผ่น ความเย็นชื้นจับพื้นไม้ทุกกระดานเรียบ จากระเบียงมุมนี้ไปมุมโน้น เรื่องถูบ้านเราไม่ชอบเลย แต่ชอบตอนถูเสร็จแล้ว การได้เอามือลูบแผ่นไม้กระดาน ตอนที่กระดานหมาดแต่ไม่แห้งเสียทีเดียว มือรับรู้ความเย็นในเนื้อไม้และช่างเนียนสะอาดลื่นมือ
บ้านไม่มีชื่อ ความระเริงสดชื่นในตัวเรา เกิดจากบ้านหลังนี้ ขอนั่งมองป่ามุมนั้น ย้ายลุกไปนั่งอีกมุม เพื่อมองดูวิวป่าที่เปลี่ยนไป ระเบียงยาวลดหลั่นตามโค้งน้ำทั้งซ้ายขวา ให้นั่งนอนพักผ่อนได้ทั้งวัน บ้านไม่มีชื่อไม่ใช่แค่มีระเบียงที่ยื่นหาสายน้ำ แต่ยังวงโอบต้นไม้ใหญ่ผิวเปลือกเกลี้ยงเกลาให้เป็นส่วนหนึ่งของบ้าน เราพบว่าต้นไม้ ส่งสัญญาณ…. เหมือนเตือนว่าต้นไม้ใหญ่ต้องทำหน้าที่เผื่อแผ่ให้พืชเล็กๆเช่นกล้วยไม้ได้อิงอาศัยด้วย และกล้วยไม้ป่าที่ขึ้นเองในผาด่างมีมากมาย เราควรจับแยกมาเพื่อกระจายเผ่าพันธุ์
ภูเขาสีเขียวชุ่มสด แสดงตัวตนความเป็นป่าใหญ่ยืนเรียงทอดยาวเป็นแนวสุดสายตา ท้องน้ำใหญ่กำลังรองรับละอองฝนเล็กๆหยิมๆหลังจากฝนใหญ่เพิ่งซาหมาดไป เราสูดดมความสดชื่นของไอดินไอฝนที่มีกลิ่นสะอาด
มาแล้ว การเฝ้ารอคอย ความวิเศษกำลังมา และจะต้องเกิดตามมาทีหลังเมื่อฝนหนักหมดไป มายามหัศจรรย์กำลังก่อเกิด หมอกสีขาวบางๆปรากฎขึ้นจากชายขอบป่า มาจากที่ไหนไม่มีใครรู้ หมอกขาวบางลอยไหลจากต่ำค่อยๆสูงขึ้น หมอกค่อยๆรวมเปลี่ยนตัวเองเป็นหนาขึ้น และค่อยๆฟูพองใหญ่โตขึ้นทุกที ตอนนี้พวกหมอกมีมากกว่าภูเขาป่าเบื้องหน้าหมอกเข้าหาไหลลามครอบคลุมโอบกอดปิดภูเขาเบื้องหน้าทั้งหมด เทือกเขาทั้งหลายหายไปจากสายตา นานมาก คลื่นหมอกหนาก็ค่อยๆคลายรัดภูเขา เทือกเขาแนวยาวค่อยๆกลับคืนปรากฎภาพให้เห็นทีละนิด ส่วนพวกหมอกสีขาวกำลังเดินทางจากไปทางป่าขวามือ ไปรวมสีเดียวกันกับท้องฟ้า
บ้านของเรามีชื่อแล้ว ภูสีหมอก เรารักชื่อนี้ เพราะชื่อนี้เกิดจากความจริง และความจริงนี้เป็นความงดงามและเกิดให้พบเห็นสม่ำเสมอทุกปีในราศีวสันต์ฤดู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น