วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2551





15 october ,2008 วันนี้เป็นวันแรก สำหรับเรากับการเขียนหนังสือ บนบ้านหลังใหม่ชื่อ เรือน…ภูสีหมอก บ้านนี้เรากับพี่เปี๊ยกตั้งใจแน่วแน่ไว้ว่า บ้านหลังนี้คือที่นอนของพวกเรา


ตั้งแต่เราทำผาด่างมา เราทั้งคู่ยังไม่มีบ้าน มีแต่การย้ายไปนอนทุกหลัง ทุกหลัง ในผาด่างแต่ละคืนบ้านที่เราเลือกขึ้นอยู่กับบรรยากาศจะพาเราทั้งคู่ไป เรือนภูสีหมอกฝาบ้านทำด้วยไม้ไผ่ตีให้แตกแผ่เป็นฝากว้างและยาว เครื่องไม้ปกติเป็นโครงไม้ในตัวบ้านจะออกมาอยู่ข้างนอกแทน




ระเบียงยาวโค้งอ้อมคุ้งน้ำและลดระดับต่างชั้นกันไป เราทั้งคู่วาดฝันกันให้เป็นอีกมุมหนึ่งเพื่อให้ลูกค้าเพื่อนแห่งธรรมชาติมีอีกมุม และอีกมุมเพลิดเพลิน นอนอ่านหนังสือกับเพื่อนคือสายลมท้องน้ำและท้องฟ้า หรือ จิบกาแฟ ทานอาหารยามเช้าและยามบ่ายน้ำดื่มผึ้งผสมมะนาวเย็นๆ


หรือยามค่ำคืน ใต้แสงเทียนให้มองฝ่าความมืดเพื่อเห็นความมืดเช่นกัน และบางครั้งสัตว์น้อยตัวเล็กๆทำเสียงประหลาดลอยมาจากลานหญ้าด้านล่าง หรือเสียงจากตลิ่งชายน้ำให้ฟังว่านั่นเสียงอะไรกัน ยามกลางวันเจ้าผีเสื้อมากมายชอบบินวนเวียนเกาะตรงบันไดด้านตะวันออกขั้นที่สอง เราเองก็งงเหมือนกันว่าผีเสื้อเจ้าพวกนี้จึงชอบบันไดขั้นนี้เอาจริงๆ เราเขียนไปแล้วลองอ่านดูทุกบรรทัดเราแน่ใจอย่างไม่ต้องสงสัย เรากำลังมีความสุข







เราเดินตามเสียงเครื่องไฟฟ้าที่ส่งเสียงดัง ว่ามีการตัดเหล็ก เราถามยอดว่าทำอะไร ยอดบอกว่าทำประตูรั้วบ้านโมกป่า กับการเวก ถ้าเหล็กเหลือ ก็จะทำให้บ้านนกเงือกด้วย เราแวะเก็บพริกหน้าบ้านนกร่าเริงห่อกระดาษไปส่งให้เก๋ที่ห้องครัว ก่อนเดินย้อนกลับมาเอาปลอกหมอนอิงใบใหม่หลาบใบที่เราออกแบบเอง ไปเปลี่ยนเอาปลอกหมอนเก่าออกซักที่บ้านริมน้ำ ทั้ง3 หลัง







16 october ,2008 ในวงสนทนา ของร้านผาด่าง วันนี้ท้องฟ้าสว่างเจิดจ้า คงเพราะเมื่อคืนฝนตกคลุมป่าทั้งป่าในละแวกนี้ และซาจากไปยามอรุณรุ่งเช้ามาเยือน ตาเขียดมาตามชาวบ้านให้ไปดูรอยเท้าสัตว์อุ้งเท้าใหญ่เป็นรอยลึกสดและใหม่มากๆ น่าจะมากันสองตัวแต่เช้า ชาวบ้านหลายคนคาดคะเนว่าน่าจะเป็นเสือดำหรือเสือดาว เสียงเล่าเข้ามาถึงชาวผาด่าง พี่หวัดขับซากรถเครื่องเก่าๆดังเข้ามา ร่วมรับฟังและโพล่งขึ้นว่า ไม่ใช่เสือดง เสือดาวอะไรหรอก เห็นเจ้าต้นน้ำ กับเจ้าภูเขาเข้าไปวิ่งเล่นในไร่ตาเขียดเมื่อเช้านี้เอง


บนทางเดินมีกิ่งชะอมหักร่วง ดินเปียกเพราะน้ำฝน นี่ออกพรรษาแล้วฝนกำลังจะหมดไป ปีนี้พวกเราเป็นฝ่ายตั้งรับกับธรรมชาติเติมฝนให้ชาวแก่งกระจานไม่มากนัก ปีหน้าในหน้าแล้งการแย่งทรัพยากรน้ำเกิดขึ้นอย่างแน่นอน


ต้นไทรออกลูกสีเหลืองอีกแล้ว และนกต่างๆบินเข้าบินออก นกแก๊กส่งเสียงดังอยู่ไกลๆ บอกว่าถิ่นนี้เรายังเป็นผู้ครอบครอง นกกระเต็นน้อยธรรมดาเพื่อนผู้เฝ้าท้องน้ำ ส่งเสียงใสทักทาย นกกินปลีolive-back sunbird ตัวแม่ยังทำหน้าที่บินคาบเหยื่อวนเวียนรังลูกน้อย ตรงต้นไผ่กิ่งโน้มหน้าอ่างล้างจาน เรากับเจ้าใกล้กันมาก ทำไมความยินดีเกิดขึ้นด้วยกับการที่เจ้าบินมาใกล้แสนใกล้อย่างนี้







ยามบ่ายเราเขียนหนังสือบนเรือนหน้าบ้านภูสีหมอก เสียงนกกระเต็นหัวดำมาก่อนและเรียกสายตาเรามองตาม เห็นตัวและได้ยินกันและกันแสนสั้นเหลือเกิน เมฆตั้งเค้าบอกว่าฝนละลอกใหม่กำลังมา และไม่นานฝนก็ทยอยตกเปาะแปะบนกระดานไม้หน้าเรา เรามองเม็ดฝนด้วยความสดชื่นและชื่นใจ ฝนหนาเม็ดและหนักขึ้นเรื่อยๆ และไม่นานเราก็หลับไป




ก่อนเราเข้ากรุงเทพ เจ้าต้นน้ำ เดินมาหา มีเลือดสดผสมรอยเท้าบนพื้นไม้ พวกเราช่วยกันดูว่าเท้าไหน ข้างไหน หน้าหรือหลัง และพบว่า เท้าหลังเป็นแผลลึก ทุกคนสรุปกันว่า ควรต้องให้หมอเย็บแผล เราพาเจ้าต้นน้ำ ขึ้นรถไปโรงพญาบาลให้หมอรักษาและไม่ลืมฉีดยากันบาดทะยักด้วย





เรือนหลังใหม่ที่เป็นบ้านของพวกเรากับเจ้าภูเขาและต้นน้ำ อาทิตย์หน้าถ้าเรากลับไป งานแรกของเราคงเป็นการคลานไปมาอยู่ใต้ถุนเรือน เก็บเศษเหล็ก สังกะสี ตะปู

2 ความคิดเห็น:

Alien กล่าวว่า...

ชอบมากครับ บ้านบนเนิน ริมสระ

Alien กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ