วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2552

นับนกแก่งกระจาน ครั้งที่2







March 20, 2009

เสียงปลุกเรียกของสาวยุง คนขยันแห่งผาด่างดังมาจากเนินเขาด้านทิศตะวันออก พี่เปี๊ยกน้องชายชื่อป้อมโทรมา บอกว่าขโมยขึ้นบ้านให้โทรกลับบ้านด่วน เราตกใจรีบลุกจากที่นอนบ้านภูสีหมอก คิดในใจว่าบ้านหลังไหนกันเล่า หากเป็นบ้านหลานๆและลูกน้องเย็บผ้า ของอะไรเล่าที่เจ้าหัวขโมยจะเอาไป จักรเย็บผ้าหรือ โอ้ย…. หนักจะตาย

ถัดมาบ้านของเราเอง อะไรที่จะเอาไป ทีวี เครื่องเสียง ของอย่างอื่นๆเราเอามาด้วยทุกครั้งที่เดินทางกลับผาด่าง เสียดายเหมือนกัน โอ… ทำไมชีวิตเราต้องวนเวียนซื้อเครื่องไฟฟ้าอีกแล้วหรือนี่








หรือบ้านพี่สาวที่เรียงรายติดๆกัน แล้วทำไม พี่เรา หลานเราไม่โทรมา กลับกลายเป็นน้องชายแฟนโทรมา ซึ่งอยู่ถัดไปอีกซอย…..กว่าเราจะเดินมาถึงหน้าผาด่างเรื่องโจรงัดบ้านก็ครบทุกหลังความกังวลเกาะกินสมอง พร้อมๆเซ็งเหนื่อยหน่ายกับปัญหารุมเร้า





พรุ่งนี้อีกเล่า มีการนับนกแก่งกระจานครั้งที่ 2 ที่ผาด่างแห่งนี้ พี่เปี๊ยกส่งยิ้มให้เราหลังจากวางโทรศัพท์ บอกว่าบ้านน้องชายโดนงัดบ้านแต่ไม่ได้อะไรไป ป้อมน้องชายวิ่งตามโจรไปแต่ไม่ทัน ความเครียดหายไปทันที….หน้าตาชาวผาด่างเปลี่นเป็นสดชื่นและ…..คุย…..คุย… คุย…ไม่หยุดก่อนแยกย้ายไปทำงานตามรายงานการประชุม






บ่ายๆน้องๆคณะทำงานสมาคมนกเดินทางมาถึง เราต่างแลกยิ้มคุยกันและกัน ทุกคนกับตัวเราผ่อนคลาย อาจเป็นเพราะเรากับน้องทำงานร่วมกันมานาน และน้องๆก็เคยเข้ามาในดินแดนแห่งนี้แล้ว



ดินแดนผาด่างสวยงามตามธรรมชาติอันแสนจะธรรมดา แต่ยิ่งใหญ่ในความทรงจำหากคนนั้นหยั่งความงามธรรมดา ของสิ่งที่ตั้งเป็นอยู่และนำมาดัดแปลงใช้ในกิจวรรจประจำวันอยู่จริงแค่ตรงนั้นถูกที่ถูกเวลา

March 21, 2009
กิจกรรมนับนกแก่งกระจานครั้งที่2 จัดโดยสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย
เช้าของวันสดชื่นและหน้าที่ปลุกเราทำงานกันแต่เริ่มเช้าเป็นพิเศษ หลังจากทุกคนแยกย้ายกันไปทำงานเราพากลุ่มเด็กป่าของเรา







เด็กป่าเหล่านี้เสนอตัวเข้าร่วมกิจกรรมนับนกแก่งกระจานครั้งนี่ด้วย เราเลือกเดินไปหาลำห้วยแห้งเด็กเดินหน้าไปก่อนเราและตั้งใจมุ่งหานกป่า ในลำธารแห้งนกให้เรารอและไม่นาน นกปรากฎกายขึ้นด้วยความร้อนอยากอาบน้ำเต็มที แล้วเจ้าเด็กป่าเกือบ10 คน ก็อยากเห็นนกอาบน้ำในชีวิตของพวกเค้า ชาวอนุรักษ์ชื่อกุ้งแห่งผาด่าง พามาลำห้วยแห้งและที่นี่มักเป็นความลับ






กุ้งแห่งผาด่างมักพาคนดูนกมาที่นี่เสมอ ถ้าโชคดี นกอย่างพวกเราก็ปรากฎกายมากหน่อย แต่เราพวกนกป่าได้ยินคำว่าบังไพรเหมือนกัน แต่เรายังไม่เคยเห็นที่นี่ เธอจะทำหรือเปล่านะ พวกนกอย่างเราเดาใจเธอไม่ออกเลย สุดท้ายนก puff-throated babbler เลือกลงอาบน้ำอย่างเร็ว ละบินหายไปฝั่งตรงข้าม และบินลงเล่นอีกและรีบบินหนีไปอีกฝั่งของป่าเงารก





เด็กๆรีบยกกล้องมองสีลักษณะเด่น และเปิดหนังสือเบริด์ไกด์ ประกอบดีใจเรียกชื่อนกซ้ำๆเพื่อช่วยความจำ นกกางเขนดงร้องและบินเกาะกิ่งเตี้ยร้องเพลงให้เด็กเดินตามหา ทางเดินลำห้วยแห้งสลับทางขึ้นดินเนิน เราต้องใช้มือเกาะเกี่ยวเถาวัลย์ขึ้นไต่ แต่เด็กๆใช้ความคล่องแคล่ว และทิ้งเราไว้กับเถาวัลย์ตามลำพัง






นกจับแมลงหัวจุกดำ ตัวผู้ นกกินปลีแก้มสีทับทิมทั้งคู่ชีวิต ทำเอาเด็กตื่นเต้น เด็กทุกคนสลับพูดสลับถามตามทางเดินกับเราบ่อยมาก พวกนกปลูกต้นไม้พวกนี้หรือป้ากุ้ง เราชอบและรักคำนี้มากๆ เด็กๆรู้คำตอบกลไกความลับการเข้าใจการช่วยเหลือพึ่งพากันและกันของธรรมชาติแล้ว ต้นไม้กับสัตว์ป่า ป่ากับน้ำ






เรามอบเวลากับช่วงนี้ไม่นาน กลัวเด็กป่าจะเบื่อ เราอ้างเรื่องกินและเด็กทุกคนต่างเห็นด้วย หลังทานข้าวเที่ยงและเด็กขออนุญาติวิ่งไปว่ายเล่นน้ำในอ่างผาด่างกัน

ตอนบ่ายคุณ woodsman เป็นแขกเยือนบนเรืองภูสีหมอก เรื่องราวทุกเรื่องเราคุยกันอย่างมีมิตรภาพจริงใจ และนั่นทำให้เราเป็นสุข เราอบอุ่นและรู้สึกถึงความจริงใจอย่างแท้จริง คุณแนะนำเรื่องการคิดและทำใจ เหมือนคุณหยั่งรู้ว่าเราป่วยหรือเศร้าใจในเรื่องอะไร





ทุกเรื่องที่แลกเปลี่ยนสายตาเราทั้งคู่มองไปทางเดียวกันที่ลำห้วยก้านเหลืองมีเสียงเด็กป่าตะโกนเล่นน้ำกันแว่วสลับเข้ามา แดดตะวันตกสอดแทรกแยงตาเราทั้งคู่ เวลาเดินเร็วเสมอหรืออย่างไร ความสุขกับเพื่อนดีๆในดินแดนผาด่าง





เวลาลงทะเบียนคนนับนกแก่งกระจานเกิดขึ้นแล้วหน้าผาด่าง ที่ระลึกจากชาวผาด่าง หนุ่มม่อนกับไผ่ ช่วยกันทำพวงกุญแจโลโก้ผาด่างจากไม้มะขาม100 อัน ไม่พอแจกเพื่อนนับนกคราวนี้








ทุกคนแยกย้ายไปตามบ้านพัก และหามุมกางเตนท์ของตัวเอง อาหารเย็นผ่านไปอย่างสนุกสนาน ผ่อนคลาย สีหน้าท่าทางทุกคนร่าเริงสดใส สดชื่นเป็นกันเองแม้แต่ตัวเราก็ไม่เครียดไม่เกร็ง นั่นคือวันที่ดีจริงๆเชียว





เวลาเสวนาในโดม อาคารหลังคาสังกะสีโล่งสูงคลุมด้วยใบจาก โดมนี้ไร้ฝาสามด้านด้วยกันเพื่อเปิดมุมมองสู่ธรรมชาติ ให้ธรรมชาติได้ร่วมรับฟังการเสวนากับพวกเราทั้งหมด หนึ่งร้อยกว่าชีวิต

ปัญหาการระบาดความนิยมเลี้ยงขังกรงนกปรอดหัวจุก เปิดโลกของนกปรอดหัวจุกว่าอยู่ในห้วงของความอันตรายและรุนแรงขนาดไหน




คนรักนกนักดูนกควรต้องรู้และทำงานตามกำลังของตัวเอง กรุณาอย่าโยนหน้าที่นี้ให้คนอื่นและตัวเองโพสต์เขียนความคิดเห็นเชิงสงสารและเวทนา เราได้ยินเสียงตัวเองตอบออกไปให้เพื่อนๆที่มารวมอยู่ในห้องได้ฟังและได้ยิน





ได้ยินเสียงตัวเองบอกเล่าเกี่ยวกับผาด่าง ปัญหาของป่ากับชุมชนรอบราวป่า

เรื่องราวของป่าตะวันตกป่าผืนใหญ่มรดกของประแทศกำลังถูกแย่งชิงเพื่อผลประโยชน์ของคนมากมาย ความต้องการของคนต้องการตัดถนนผ่านป่าทุ่งใหญ่นเรศวร






ทำไมคนทุกคนต้องเอาความต้องการของตัวเองเป็นใหญ่กว่าธรรมชาตินะ เราฟังปัญหาและคิดตามเรื่องแย่ๆนี้ในใจ

ข่าวดีก็มีของการเสวนา การปล่อยละมั่งคืนสู่ธรรมชาติ ตอนแรกเราคิดไปเองว่า ละมั่งหมดไปจากแผ่นดินสยามและนำละมั่งจากต่างประเทศเข้ามา ด้วยการซื้อขาย หรือแลกเปลี่ยนกับสัตว์ป่าของเรา



เสียงของตัวเองที่รีบถามผู้ทำงานโครงการนี้ แต่เสียงของคุณตอบมาชัดเจนมาก ว่าเป็นตระกูลละมั่งของไทยแน่นอน นั่นทำให้เราสบายใจ







เสียงโฆษก คุณวิชา ณ รังสี เสริมบางช่วงเกี่ยวกับการส่งเสริมสร้างเด็กวัยประถมอนุรักษ์ผืนป่าก่างกระจาน เป็นเรื่องที่เราต้องควรนำมาพิจารณาด้วย ทุกความคิดเห็นมีสิ่งดีบางแง่มุมติดมาเสมอ


March 21, 2009

ตีห้า ก่อนเวลาทานข้าว คนหลายคนเต็มหน้าห้องอาหาร เพื่อทานอาหารเช้า และรับข้าวห่อ ก่อนทุกกลุ่มแยกย้ายกันเข้าป่าแก่งกระจานเพื่อดูนก







เจ้ามอสบอกเราว่า เมื่อคืนเจ้าอบเหยียบตะปู เราถามอบว่าเดินไหวหรือเปล่า อบพยักหน้าอย่างไม่ยอมถอยจากกิจกรรมนี้ จากรองเท้าแตะเราให้อบพยายามใส่รองเท้าเดินป่าของพี่เปี๊ยก แต่เท้าของอบใหญ่กว่า ใส่ไม่ได้เลย

อบบอกใหเเรสบายใจว่า ป้ากุ้ง...อบเดินได้….ใส่รองเท้าแตะนี่แหละ






ตกเย็นเมื่อทุกคนกลับมาถึงผาด่าง เสียงผู้ใหญ่หนึ่งในเบิรด์ รีดเดอร์ กล่าวชม เด็กชายอบชาวป่า…คนนี้เก่งมากๆ แทบดูไม่ออกเลยว่าเท้าเจ็บ เดินได้ทั้งวันไม่บ่น หรือมีอาการท้อแท้








เราบอกให้พี่เปี๊ยกขับรถพาอบไปโรงพยาบาลแก่งกระจานเพื่อฉีดยากันบาดทะยัก





ตกเย็นจริงๆแล้ว พระอาทิตย์แตะขอบฟ้าฝั่งตะวันตก…..ทุกคนจากผาด่างไปแล้ว





งานที่ธรรมชาติมอบหมายให้เราทำ ดูแลแผ่นดินผาด่าง ปกป้องป่าแก่งกระจานสร้างเคลือข่าย นักอนุรักษ์รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ เสริมสร้างรายได้ให้ชุมชนตามกำลังเล็กๆของเรา







ช่วยเป็นตัวกลางรับบริจากสิ่งของช่วยเหลือชาวบ้าน ยามหน้าหนาวกับคนแก่
เป็นตัวกลางช่วยเหลือส่งของบริจากให้กับโรงเรียน ของใช้แล้ว เสื้อผ้า เครื่องดนตรี จานชามช้อน และหนังสือดีๆเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมการเรียนการสอนธรรมชาติกับเด็ก

แม้แต่สารานุกกรม หนังสือราคาแพงแต่ประโยชน์ประเมินมูลค่าไม่ได้จำนวนมากมายมุ่งสู่โรงเรียนด่านโงจากนักท่องธรรมชาติหวังเติมคุณค่าให้เด็กป่า

โครงการเดินท่อสปริงเกอร์ปลูกผักของเด็กๆที่ปลูกและกินกันเอง

โครงการสร้างบ่อทำปุ๋ยอินทรีย์





ช่วยเสริมข่าวสารให้คนบ้านป่ามีข้อมูลข่าวสารอย่างเป็นธรรม ให้โอกาสการศึกษาเด็กยากจนให้ทุกการศึกษาช่วยค่าใช้จ่ายทุกเดือน สนับสนุนโครงการอยู่อย่างพอเพียงของในหลวง





แผ่นดินป่าแก่งกระจานอยู่ในตำบลห้วยแม่เพรียง และหมู่บ้านของเรา ชื่อด่านโงตั้งอยู่ ตำบลห้วยแม่เพรียงป่าแก่งกระจาน ติดปากทางซื้อขาย ตั๋วเข้าอุทยานลำดับที่สองชื่อด่านสามยอด





อบต. ห้วยแม่เพรียง เป็นผู้จ่ายค่าบำรุงป่ายามป่าและนักท่องเที่ยวเดือดร้อนจากท่อน้ำแตก ถนนลำบากขึ้นเขาโหดเกินไป กับเหล่านักท่องธรรมชาติบางคน บางกลุ่ม และค่าใช้จ่ายกับปัญหาอื่นๆอีกมากมายของป่าแก่งกระจานใหญ่ที่สุดในประเทศ และคนในต.ห้วยแม่เพรียงโครงการในพระราชดำริ
เรายืนอยู่ตรงนี้ เราและชาวผาด่างจะไม่ทำให้ผาด่างคือธุรกิจอย่างเดียว

ชาวผาด่างเห็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเองแล้ว ธุรกิจกับการช่วยเหลือสังคมสามมารถทำพร้อมๆกันไปได้กับชีวิตชาวผาด่างที่เดินตามกาลเวลากำหนดและให้ความสุขเป็นกำลังใจเป็นที่ยึดมั่นของทุกคนช่วยป่าใหญ่ที่น่าสงสาร





สำคัญที่สุด เราต้องตระหนักให้ได้ ต้องไม่คาดหวังว่าความสำเร็จอยู่ตรงไหน

เราตอบตัวเองได้ทุกครั้งที่ถามว่า…….ไม่มีตอนจบหรอก หากเรายังอาศัยผืนแผ่นดินนี้

อะไรคือแรงสะท้อนตัวหนังสือเหล่านี้ คือความซื่อต่อความคิดและการกระทำของตัวเอง เราไม่สามารถเก็บการกระทำที่เราแน่ใจอย่างไม่ต้องสงสัย ว่า ธรรมชาติกำหนดทางเดินและงานให้ทำเป็นระยะเวลายาวนานตั้งแต่ก้าวเท้าแรกยืนบนดินแดนผาด่าง












ไม่มีความคิดเห็น: