วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

หนทางลังเล JANUARY 4 ,2009




ห้องกล้วยไม้ TWS กับคนหนึ่งของผาด่างแคมป์

ทำไมเราเดินเข้ามาหาห้องนี้


เราคาดหวังอะไร

หวังพบ คนรักป่าเหมือนกัน รักต้นไม้ สายธาร หรือแม้เสียงกะซิบสายลม




ข่าวคราวธรรมชาติโดนทำลาย ทำร้าย ความเศร้าเป็นปฏิกริยาตอบสนอง




อาจเหมือนใครคนหนึ่งในห้องนี้ อยากทำอะไรก็ได้…ให้เรื่องเสียใจโหดร้ายมีจุดจบ


หวังพบ ผู้มีความรู้ ทางธรรมชาติ จริงใจอ่อนโยนพร้อมกรุณาให้ความรู้สื่อผ่านบทเรียน




สอนให้เกิดรู้จักพืชพันธุ์ สอนให้รักษ์พันธุ์ไม้ มากกว่าอาจารย์ท่านนั้นจะรักได้


ต้องการ อิสระจากอาชีพ สำคัญที่สุด คงเป็นหัวข้อนี้




ตัวเรามั่นใจจะได้ถอดดักแด้เพื่อบินเรียนรู้อย่างอิสระ




เราขอมีห้องสักห้องหนึ่งอิสระ เสรี


ไม่ใช่ชาวผาด่าง ไม่มีธุรกิจ หรือแฝงเป้าหมายทำมาหากินเป็นกาฝากของห้องนี้




เหมือนคนที่ถวิลโหยหาวันเสาร์ อาทิตย์



อิสระ กับความรู้สึกจริงๆที่เกิดขึ้นระหว่างจิตใจของเรากับธรรมชาติ




ผ่านตัวหนังสือ หรือรูปภาพ ในห้อง tws นำมาแลกเปลี่ยนเพื่อรับฟังเรื่องของเพื่อนคนอื่น




มุมมองชีวิตซึมซับธรรมชาติต่างมุม หรือข้อคิดที่แปลกแยกออกไป




แต่จุดสุดท้ายคือเพื่อธรรมชาติปลอดภัยเพียงอย่างเดียว


นี่คือสาเหตุแห่งความจำเป็น ต้องเขียนบางอย่างเพื่อสื่อให้เห็นถึงความจริงตัวตนของเรา ตัดสินใจ หลายๆครั้งและเปลี่ยนใจเสียหลายครั้ง จำนวนและเวลาพอกันพอกัน

เตรียมความกล้า ปะปนกับความลังเล เชื่อ ไม่เชื่อ กับเรื่องเขียน หมดหรือยัง เพียงพอหรือเปล่า และใช่ความจริงใช่ไหม




มีน้ำหนักเพียงพอกับอัตตาของแต่ละคนในห้องtws




(เสนอเขียนบรรยายเรื่อง ….บางคนในห้องนี้มีความคิดเห็นว่า คนเขียนอาจคิดเลยเถิดไปเอง หรือ นี่ไงปรกกฎตัวแล้ว )

เพราะอะไร เราต้องใช้ความกล้าสารภาพ ว่าเราคือใคร

ความกลัว เรานำตัวเองคนเดียวไปเสี่ยงกับธุรกิจท่องเที่ยว ที่ชาวผาด่างช่วยกันสร้างขึ้นมาไม่ใช่แค่เราคนเดียว แต่ชาวผาด่างทั้งหมด และเวบไซด์นี้เป็นเวบไซด์ นักท่องเที่ยวต่างให้ความเชื่อถือ


จึงเป็นเรื่องแสนจะเปราะบางมากและอันตรายกับชาวผาด่างที่สุด


ความละอาย หรือการยอมรับเห็นว่าตัวเองทำผิด




การเขียนทุกตัวอักษรจึงต้องใช้ความจริงเพียงอย่างเดียว และมีเพียงความดีเท่านั้นที่จะปกป้องเราได้

แต่การที่เราไม่รู้จักกัน ความดีต้องเกิดจากการเชื่อถือ ศรัทธา รู้จักในบุคคลผู้นั้น อาจทางสังคม ข่าวสาร และระยะเวลา



แต่สำหรับห้องนี้ เราเพียงผู้ผ่านมานานๆครั้งเท่านั้นเอง ยากมากเหลือเกินสำหรับเรา หลายคนในห้องเมื่อได้อ่าน

โปรดกรุณาอย่าให้แค่ตัวหนังสือของเรา เป็นคำตัดสิน


อิสระทางความคิดเห็นโดยมีธรรมชาติเป็นประสพกาณ์ให้เพื่อนในห้องนี้ล้วนคือบทเรียน ย่อมบอกแก่ตัวเพื่อนเองได้




เราควรได้รับมิตรภาพกลับมาหรือไม่


เราไม่ต้องการให้การเขียนของเราคือการแก้ต่างให้กับตัวเอง




แต่เราต้องการให้เรื่องที่เราจะกระทำต่อไปนี้และอนาคต ยืนอยู่บนเส้นทางสะอาด ไม่มีข้อสงสัย หรือเคลือบแคลง



ขอโทษ……ต้องการกล่าวคำขอโทษและบอกว่าเราเสียใจกับการกระทำของเราทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ การปิดบังตัวตนว่าคือชาวผาด่างคนหนึ่ง

tws แม้เป็นดอกกล้วยไม้ดอกเดียวโดนเด็จแยกช่อ
เราไม่ปราถนาอย่างยิ่งจะสร้างชื่อเสียง หรือใช้ความสามารถของคนสร้างtws




เกื้อธุรกิจของตัวเอง จากการปกปิดอาชีพของเรา


ขาดมารยาทการขอเข้าห้องเพื่อทักทาย ไม่ได้ขออนุญาติก่อน หรือปกปิดอาชีพ หรืออะไรที่ไม่งาม น่าสงสัยพฤติกรรมของเรากับธุรกิจ






ทุกคนในห้องนี้ย่อมสงสัยได้

ธรรมชาติเป็นเรื่องเปราะบางอ่อนแอฉันใด ห้องธรรมชาติห้องนี้ก็คงเช่นกัน

ห้องนี้ใช้ระยะเวลานานหลายๆปี การเดินทางของคนหลายคน ไปทุกที่ของป่าเขาลำเนาไพร ทุกฤดูกาลของดอกไม้บาน

ในทุกภาคที่รู้ว่ามีความยากลำบากสาหัส ตัวแปรเต็มเกลื่อนไปทั้งป่าแห่งนั้น


จะนำข้อมูลออกมาอย่างทะนุถนอมเพียงใด ให้มากที่สุดเท่าที่เวลาและความเป็นไปได้จะมีให้แค่ไหน

การเขียนตำรา แต่ละเล่ม หนังสือคือห้องเก็บเกี่ยวร้อยเรียงเรื่องราวของคนคนหนึ่งทุ่มเทพลังชีวิต

ความศรัทธากับชีวิตพืชดอกตามดิน ซอกหิน แม้เกาะยอดสูงของต้นไม้เปลือกหยาบสากเป็นร่อง

โซ่ตรวนที่มองไม่เห็นผูกคอ….. ล่ามไว้กับ…..สติสัญญาต่อสัตว์ป่า สรรพชีวิตต้นไม้ ทั้งสูญพันธุ์
บางอย่างปรากฎเป็นภาพสุดทรมาน แสดงอำนาจให้รู้จริง จงใจทรมานคนอนุรักษ์

กำลังบอกใคร หรือ คนของธรรมชาติในห้องนี้ เผ่าพันธุ์ของสัตว์ พืช หลายชนิด กำลังเดินถึงดินแดนแห่งกาลสูญพันธุ์ หายไปจากดินแดนเกิด เ ห ลื อ ชื่ อ




หมู่บ้านหุบเสือ เรื่องอดีตเป็นเงาลางหรือเรื่องเล่าบอกต่อ

ตัวคนเขียน หากวาดภาพเป็น หยดสีที่ปาดป้าย…..คือน้ำตาไหลรินต้องคอยปาดเช็ดให้ตัวเอง

แต่คนเขียน ตัวหนังสือทุกตัว เพื่อบอกว่า เราจะมีกันและกันแม้ถูกเน้นคือเรื่องเศร้า




หน้าที่ต้องเปลี่ยนเป็นเข้มแข็งยอมรับเพื่อทำงาน ไม่มีเหตุผลว่าสำเร็จหรือไม่




เวลาจบของงานจะมาเมื่อไร ใครจะเป็นผู้ร่วมทาง

คนนี้จะถือเอาเป็น twsคือแกนตัดสินใจ มีมติอย่างไร ในนามของคนเขียนจะรับไว้และคิดให้เสมอว่า




ห้องtws คือตัวแทนธรรมชาติ ธรรมชาติให้tws เป็นร่างส่งผลสรุปมาสู่ผู้เขียนอีกที





เรายอมรับหากธรรมชาติไม่ต้องการเรา เพื่อนำไปสู่คำตอบว่า เรายังทำงานให้ธรรมชาติไม่มากพอ





ไม่มีความคิดเห็น: