วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2551

นกตาฝาง

ห่างด่านไม่ถึง1 กิโล จุดขายตั๋วอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน บนถนนเรียบร่มรื่น สองข้างทางของต้นไม้ยืนเอนส่งเทวภูตในร่างเงาไม้ใหญ่นอนทาบพื้นถนนยาวสุดโค้ง และต่อออกไปเรื่อยและเรื่อยไป รถของเราวิ่งทับเงาไม้

ในรถ….หน้าของเราเกือบแนบกระจก มองป่าข้างหน้ามุมสูงสุดไกล สายตาของเราโอบกอดป่าไว้อย่างรักและคิดถึง ต้นไม้สองข้างทางยืนสบายๆให้ลมบนวนโอบ และยอดใบสูงใกล้ตายืนนิ่ง ไม้พุ่มรกระดับต่ำกว่าลงมา มีนกปรอดเหลืองหัวจุกบินข้ามถนน ไปหนึ่งตัว ไปรออีกตัวที่กำลังบินตามไปสมทบ และอีกตัวเรานับในใจ… สาม…สี่




จอดรถทำไมเหรอ ผมเห็นนกตายครับอากุ้ง บนเกือบกลางถนนตามสายตา มีนกตบยุงนอนตาย สถานที่แห่งนี้คืออุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าตัวนี้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมาย มีชีวิตที่เกิดและอาศัยที่แห่งนี้เป็นบ้าน แต่…ต้องมาประสพชะตาถูกปลิดชีพในบ้านตัวเองโดยแขกผู้มาเยือน เมื่อมองใกล้ๆ นกเพิ่งตายไม่นาน รถขับชนนก หรือนกบินชนรถ ขนนกสีน้ำตาลลายปลิวไหวน้อยๆ แต่ลำตัวกลับนิ่มนิ่ง



ตัวนี้หรือเปล่าที่เรามักพบเจอกันบ่อยครั้ง ในบริเวณใกล้เคียงกันนี้ นกตบยุงเพื่อนแห่งกม 2 .ตายแล้ว นกตัวนี้ไม่ได้ทำท่าแกล้งหลับตา นกตายแล้วจริงๆ

ในอดีต เราเรียกความทรงจำออกมา นกแห่งดวงตาฝาง แสงตะวันไม่ทำให้ดวงตางดงาม แต่แสงจันทร์ต่างหาก ดวงตาจะเจิดจ้าเป็นประกายทอแสงเฉพาะกับความมืดและแสงแห่งดวงจันทร์และหมู่ดาว



บนถนนแห่งนี้ เมื่อเราพบกัน เจ้าตัวลายน้ำตาลใบไม้แห้ง กับสายตามัวแดด ตาฝ้าฝางทำให้เจ้าบินได้แค่เตี้ยๆ และไม่ไกลเท่าที่ใจเตลิดบินหนี เมื่อไรเจ้าหยุดนิ่งลงพื้น เราลำพองเป็นฝ่ายวิ่งตามเจ้าไป เมื่อเจ้าขยับหนีโผบินไปข้างหน้า เราผู้ใจร้าย เป็นฝ่ายยืนนิ่งเขม่นมอง ว่าเจ้าจะล่อนลงตรงที่ใด และสุดท้ายเจ้าหนีลับหายเข้าเงาป่าหนามข้างทาง

เรื่องราวของเจ้า... วันนี้ ....จบลงแล้ว...... แต่ทิ้งบาดแผลลึกไว้ในใจเรา


























ไม่มีความคิดเห็น: