วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2552

รอยจำผาด่าง 6

November

1/11/50 ท้ายรถมีเครื่องทำกาแฟสดนอนอยู่ในกล่อง เมื่อรถจอดหน้าผาด่างข่าวลือเรื่องเครื่องทำกาแฟ ทำให้ชาวผาด่างจดจ่อมารุมขอดู พี่หน่อยพี่เปี๊ยกช่วยกันสาธยายว่าเครื่องทำงานอย่างไร ด้วยกริยางกๆเงิ่นๆ จับผิดลองถูก สนุกสนาน หยิบช้อนตวง ใส่กาแฟตรงไหน แค่ไหน ทุกคนถูกชักชวน บังคับให้ลองดื่ม

พี่หวัดลองเป็นคนแรก เราถามว่าเป็นยังไงรสชาด พี่หวัดยิ้มแก้มป่องบอกแต่ว่าเหมาะ เหมาะ คนนั้นคนนี้ชิมกาแฟคนละแก้ว เราลองทำกาแฟเย็น ทุกคนบอกว่า หวานเกินไป เราถามใหม่ ตอบให้ถูกใจไม่ได้เหรอ

ทุกคนลองขานชื่อกาแฟ มอคค่า เอสเปสโซ่ น้องเก๋กับน้องมดหยิบกระดาษปากกา จดชื่อและลองเรียกชื่อ แต่สำเนียงออกเหน่อๆ มดกลัวจำไม่ได้กลัวเรียกผิดจังเลย เราอมยิ้ม

วันนี้ผาด่างมีกาแฟสด ในวันเสาร์และอาทิตย์ มีน้องมดเป็นพนักงานประจำห้องกาแฟ น้องมดดีใจคงเป็นเพราะ ผาด่างจัดจ้างให้น้องมดเป็นรายได้พิเศษที่แน่นอนเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากพนักงานทำความสะอาดบ้านปีกไม้ชมฟ้า

2/11/50 เสียงตามสายโทรศัพท์ คุณนกร่าเริงย้ำกับเรา อยากทานยำเห็ดโคน พรุ่งนี้ที่ผาด่างกำหนดการจัดส่งอาหารเย็น เราบอกย้ำกับชาวผาด่าง ต้องตั้งใจทำให้พิเศษ เพราะนี่คืออาชีพของชาวผาด่างทุกคน อาหารต้องสะอาด อร่อย ตรงเวลา รักษาคุณภาพ บริการด้วยความจริงใจ ต้องเหมาะสมกับที่ลูกค้าเลือกเรา

3/ 11/50 เมื่อเราพร้อมอาหารมาถึงบ้านกร่าง กล่องใส่จาน ข้าวสวย น้ำพริกมะขาม กับผักสด ยำเห็ดโคน ปลานิลทอด และต้มจืดตำลึง พร้อมของหวานลูกตาลลอยแก้ว ถูกจัดเรียง คุณกุ้ง กระถินไม่มีเหรอ ไหนบอกว่าจะมี เราบอกคุณว่า เพี้ยไฟลง จับช่อไหนเด็จช่อไหนก็มีแต่เพี้ย เลยเปลี่ยนเป็นผักบุ้งสดกับมะเขือเปาะแต่ปลอดภัยไม่มีสารเคมีแน่นอน

3/ 11/50 คุณนกกระแตแต้แว๊ด บ้านกร่างยามเย็นแสงอาทิตย์ใกล้ลับยอดไม้สูงเบื้องหลังเรา ส่งให้เราได้พบเป็นครั้งแรกที่รู้จักคุณ ยิ้มกว้างสดใส เสียงดังจริงใจแน่นอน คุณกุ้งใช่ไหมค่ะ ให้ความคุ้นเคยกันเอง คุณชมเราว่าเขียนหนังสือสวยน่าอ่าน เราจำไม่ได้ว่า เราขอบคุณหรือเปล่า ใจเราได้แต่นึกว่าเราควรพูดให้ดีกว่าและมากกว่าคำขอบคุณ แต่เรายังหาประโยคนั้นไม่ได้เสียที

3/ 11/50 เมื่อเราเก็บของเตรียมกลับผาด่าง น้ำใจจากคุณนกร่าเริง ให้พิเศษแก่เรา 200 บาท บอกว่าช่วยค่าน้ำมัน เราพนมมือไหว้ขอบคุณในน้ำใจผู้หญิงคนนี้

4/11/50 เพลงจากนาฬิกาปลุก เรียกเราตอนตีห้า เรากับหลานจ๊อบ ลุกจากที่นอน รีบเดินกันมา ที่ครัวผาด่าง หลายชีวิตงัวเงียอยู่ในครัว แต่ต้องตระเตรียมอาหารเช้าแก่ลูกทัวร์ของสมาคมดูนก 23 คน ข้าวห่อใบไม้มีผักสด น้ำพริกมะขาม และหมูโคว้เป็นอาหารกลางวัน
น้ำสัปปะรดปั่นสดๆ แกงส้มชะอมไข่ ผัดวุ้นเส้น ผัดตับพริกฝรั่ง ต้มจืดตำลึง กาแฟร้อนเป็นอาหารเช้า พี่หวัดปูใบตองเป็นผ้ารองจาน และเดินเก็บดอกไม้สีเหลืองดอกเล็กๆมาประดับจาน มีเรายืนมอง เป็นความน่ารักสดชื่นรับกับตะวันยามเช้าที่ลอดแสงบางๆเข้ามาในห้องอาหาร

4/11/50 บ้านกร่างเป็นจุดที่คนรักนกมุ่งมา เพื่อตามหานกป่าแสนสวยตัวน้อยๆ คุณติ๊ก bird leader เป็นผู้หญิงคุณขอให้แยกลูกทัวร์เป็น 2 กลุ่ม เราลังเลไปกับคุณติ๊กหรือจะไปกับคุณป๋อง พญาไฟแห่งราชบุรี ยากเหลือเกินที่จะตัดสินใจ

4/11/50 เราเดินเสมอเพื่อทันคุณป๋อง และกล่าวแนะนำตัวเอง สวัสดีค่ะคุณป๋อง พี่กุ้ง pkkk2714 คุณหันมาและกล่าวด้วยเสียงและแววตาตื่นเต้น สวัสดีครับ ผมชอบสำนวนของพี่เวลาพี่ตอบกระทู้ พร้อมยื่นมือมาขอเชคแฮนด์กับเรา ดีใจจริงๆที่ได้พบกับเรา

จากเรื่องราวที่อ่านและเห็นแต่ในห้อง blue planet คำชื่นชมที่คุณมีต่อเราอย่างจริงใจ กลับทำให้เราประหม่าและเปลี่ยนเป็นประทับใจคุณมากกว่าและมากกว่าซ้ำๆ บนเส้นทางกม.15 เมื่อถึง กม.18 ทุกคำที่คุณพาพวกเราเดินดูนก

ห้วงเวลาเรื่องเล่า กับเรื่องราวประทับใจของนกที่คุณเคยพบ เรื่องภรรยาและลูกๆของคุณทั้งครอบครัวที่แสนจะรักนก เรื่องเพื่อนๆชาวต่างชาติ และคอยตั้งscope ให้เด็กน้อยในกลุ่มและพวกเราได้มองเห็นชีวิตมีปีกแสนงดงามที่สุดในโลกตลอดทางธรรมชาติ

เมื่อกลุ่มของเราทันสมทบกับกลุ่มคุณติ๊ก เราเพลิดเพลินกับการมองหานก แต่เราก็คอยมองหาคุณป๋อง เมื่อไม่เห็นในกลุ่ม เรามองยาวผ่านต้นไม้ใหญ่ที่โค้งหาทางเดินอย่างคุ้นเคย ผ่านลำห้วย2 มีน้ำใสจนสุดตาในทิศที่คาดว่าคุณคงกลับไปกม15 แล้ว เราถามน้องนัทเจ้าหน้าที่ของสมาคม นัทให้คำตอบว่าคุณป๋องกลับไปแล้ว

ไม่มีคำลาหรือคำขอบคุณ ตรงที่ใจต่างหากซึมซับรับรู้ว่า เรามีเพื่อนรักษ์นกอีกคนแล้ว เป็นเพื่อนที่ธรรมชาติ ส่งให้เราพบกัน มีมิตรภาพความรักนกเป็นบ่วงคล้อง คำแนะนำที่ก้องในใจเราเพื่อสอนคนรักนกทุกคน อย่าบอกว่าใครเจอนกมากกว่ากัน ความหมายที่คนดูนกเข้าใจในอย่างลึกซึ้ง

เย็นแล้วเรารีบจ้ำกลับมาที่จอดรถ เพื่อเตรียมต้มกาแฟร้อนๆแจกเพื่อนๆชาวดูนก ที่เหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้าจากการเดินตามหานก ทุกคนนั่งกับพื้นหญ้าสีเขียวเหยียดขาเป็นวงกลมหันหน้ามองดูกันและเริ่ม check list นก พร้อม ผ่อนคลายจิบกาแฟ

4/11/50 ที่นี่บ้านกร่างยามเย็น คุณพินิจและภรรยา น้ำเสียงอ่อนโยนให้กำลังใจชาวผาด่าง และสุดท้ายก่อนเราขึ้นรถ คุณบอกว่า หากมีอะไรให้ช่วยเหลือคุณยินดีเสมอ คุณค่าของคำนี้ เหมือนละอองฝนที่พรมจากฟากฟ้า ชุ่มชื่นใจกลางป่าแก่งกระจาน

6/11/50 แดดบางๆสาดต้องดงใบไม้ส่องแสงส้มแวววาว มีเงากลุ่มช่อต่างสายพันธุ์พาดทับ และต่างรอ ไม่นานสายลมอ่อนๆเคลื่อนเข้ามา จับขยับใบใหญ่เขียวสว่างพร้อมเงาช่อใบมืดดำก็แกว่งไกว โยกไหวเต้นรำและร้องเพลง หวิวๆไปด้วยกันกับสายลม

6/11/50 เมื่อมาถึงผาด่าง พี่กุ้งมาแล้ว กำลังรออยู่ เสียงไอ้ยุง ร้องทักด้วยเสียงดังก่อนเราก้าวขาลงจากรถ หนูรับซื้อเต่าจากชาวบ้านไว้2 ตัว อีกแล้วเหรอ แล้วจะปล่อยที่ไหนกัน เสียงเราถามต่อ ในผาด่างอย่างเคย แค่คราวนี้ รอให้จ๊อบเขียนวาดลวดลาย สักยันต์ คาถาอาคม ไว้บนกระดองเต่า บางทีถ้าชาวบ้านจับได้อีก เห็นยันต์บนกระดองจะไม่กล้ากิน ให้ทำเหมือนที่วัด หนูเคยเห็นหลวงพ่อทำแบบนี้
หนุ่มจ๊อบเตรียมสีกับพู่กันไม่นานก็เสร็จ ลายสักยันต์กระดองเต่า เราบอกว่าขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อยนะ แต่เต่าที่เห็นทั้งคู่ไม่ยอมโผล่หัว ให้พวกเรายืนล้อมเห็นหน้าตา เก๋บอกว่าต้องใช้ไม้แยงก้น กิ่งไม้วิเศษแยงก้นเจ้าเต่าตัวใหญ่ก่อนเป็นลำดับแรก แล้วเราก็เห็นหน้าตาเป๋อเหรอโผล่หน้าจากกระดองรีบหุบเข้าไป
อีกครั้งกับเจ้าตัวเล็ก แต่หนูเต่าตัวนี้ดื้อมากมีแต่มองพวกเราที่ยืนรอเก้อ เราถามเก๋ว่าผิดด้านหรือเปล่า ไปจิ้มเอาด้านหัวหรือเปล่า เดี๋ยวโดนตาบอดหรอก เก๋ว่าไม่ผิดหรอก แล้วเจ้าเต่าตัวนี้ก็เลิกเอียงอาย ยื่นหน้าออกมามองพวกเรา แล้วหลบหน้ากลับเข้าตัว ซ่อนหัวจากพวกเรา และไม่ยอมโผล่หน้าให้เห็นอีกเลย

ดอกไม้สีขาว แกนกลางสีม่วงเข้มห้อยระย้า เป็นช่อ พวงยาวข้างบ้านและหน้าบ้าน เอื้อมมือออกไปจนใกล้แตะได้ สวยหวานจนอดชื่นชมความงามของเธอไม่ได้ร้องบอกชี้ชวนหนุ่มจ๊อบ มีผึ้งหลวงบินเข้าออกตอมเกษร ในใจหวังให้มีนกน้อยบินมาดมชื่นชมเกษรอย่างผึ้งที่เวียนวน และสุดท้ายมือเราละจากไม่ได้สัมผัส เกรงความงามจะช้ำเพราะมือเราเอง

7/11/50 บ้านนกเงือกยามเช้าเสียงนกแก๊กร้องลั่น เรากับจ๊อบหน้าที่ต้องแล้วรีบทิ้งเรือน เดินมาห้องกาแฟ เผื่อให้นกเงือกคู่เดิมอาจบินมาแวะพักที่เรือนนี้ ตามทางเดิน นกขมิ้นปากเรียวร้องแซ่ๆแหบๆ ยิ่งใกล้ห้องกาแฟ เสียงแหบก็ดังขึ้นและถี่ขึ้น นกสีเหลืองสดตัวยาวแต่งแถบสีดำยืนร้องบอกตำแหน่งที่ไหสักแห่งในผาด่าง ต้นประดู่มุมจิบกาแฟยามเช้าทุกเช้า วันนี้ มีนกขมิ้นปากเรียว 2 ตัวยืนอยู่บนหัวของพวกเราชาวผาด่างและร้องขับขานเสียงแห่งไพร แก่งกระจานให้พวกเราฟัง หนุ่มจ๊อบเดินกลับไปเอากล้อง เวลายามเช้ากับตะวันสีส้มและนกสีเหลือง ก่อนยามสายมาเยือน ทั้งคนและนกจากเราไป

ก่อนเที่ยง เราลองสั่งกาแฟสดมากินเอง เก๋จ๋า พี่กุ้งขอกาแฟเย็น เอสเปสโซ่ 1 ที่ แต่ชิมแล้วไม่หอมหรือแรงของเอสเปสโซ่ เราบอกอี๊ด ลองสั่งมาอีกแก้ว แล้ววิจารณ์ด้วย เหมือนเดิม อี๊ดส่ายหัวแล้วมองหน้าเรา ไม่อร่อย เก๋คนชงกาแฟเริ่มหน้าเสีย


7/11/50 ก่อนบ่ายมีนักท่องเที่ยวแวะเข้ามา จอดรถที่ผาด่าง ลงรถมา 7 คน เรายกมือไหว้ สวัสดีค่ะ พวกคุณยิ้มตอบ หลายคนเหลือบไปเห็นผีเสื้อปีกสีฟ้านอนตายอยู่ในขวดโหลแก้วใสๆ คุณมองแล้วถามว่าอะไร เราเล่าว่า ผีเสื้อตัวนี้ เราไม่รู้ว่าเค้าเกิดที่ไหน แต่เค้าเลือกตายที่ผาด่างค่ะ เก็บร่างเค้าไว้อย่างนี้หลายเดือนแล้วแต่ไม่เน่า บางขวดลูกค้าก็ขอไป บางคนก็โขมยไป ลูกค้าหันหน้าเดินเข้าซุ้มกาแฟสดผาด่าง เอสเปสโซ่3 แก้ว เราไม่ได้ยินเสียง ชื่นชมรสชาดกาแฟ แต่ไม่พิลึกๆอยู่ในใจคนเดียว น้ำผึ้งมะนาว คุณชมแล้วชมอีกว่าชื่นใจมาก ทั้งหมดเดินดาเข้าชมร้านของฝากจากผาด่าง เสียงถามไถ่ว่าเสื้อรูปวาดนกแสนสวยใครเป็นคนทำ และออกไอเดีย เสื้อผ้า เราบอกว่าทุกอย่างที่นี่ ธรรมชาติบอกสอนเราทั้งนั้น ลูกค้าคนหนึ่ง มอบค่าบางคำไว้ในใจของคนผาด่าง เสื้อของคุณผมไม่ต่อราคา ผมให้เพราะคุณเป็นคนรักธรรมชาติ

7/11/50 เมื่อพบกันอีกทีเราถามว่าเป็นยังไงบ้าง จ๊อบอวดภาพถ่ายนกตีทองที่ใช้รังเดิมโพรงเดิมเลี้ยงลูกอีกรุ่นแล้ว นกตัวกลมร้องเพลงเก่งสีจัดจ้านหายเข้าไป และบินออก ก่อนบินหายไป และกลับมาเข้าโพรงอีกรอบและอีกรอบ ยอดเดินมาตามหนุ่มจ๊อบ บอกว่าเห็นนกอีเสือเกาะใกล้ต้นขนุน ให้ตากล้องผาด่างไปเก็บภาพ ตกบ่าย เก๋บอกว่า พี่จ๊อบ นกเขียวก้านตองหน้าผากสีส้มวนเวียนลงกินลูกตะขบหน้าร้าน แล้วนกกาฝากอกส้มก็มา เสียงรายงานจากชาวผาด่างทำเอาหนุ่มจ๊อบมึน

จ๊อบลองกาแฟเย็นเอสเปสโซ่หน่อย ให้เก๋ลองชงอีกทีและเปลี่ยนปริมาณด้วย จ๊อบตอบตกลง เรามองเก๋หยิบซองกาแฟเริ่มทำอีกครั้งตามใจเรา คำตอบที่ตามหามาแล้ว เก๋หยิบกาแฟมอคค่า รสอ่อนสำหรับคนรักรสชาดเบาๆ เราบอกเก๋ เอสเปสโซ่อีกซองอีกสีนะ ไม่ใช่ซองนี้ เก๋บอกว่า อ้าวหนูจำผิดเหรอ หนูนึกว่าซองสีนี้เสียอีก พวกเราหัวเราะเสียงดังแต่น้อยกว่าคนทำผิด เก๋หัวเราะดังกว่าพวกเราทั้งหมด ความซื่อของเก๋สาวบ้านป่าคนนี้ ทำให้เรามีความสุข ดีใจโล่งใจ ที่ชาวผาด่างชงกาแฟสดอร่อยเหมือนชาวเมืองแม้จะผิดรสผิดชนิดก็ตามที

22/11/50 รถตู้สีขาววิ่งมาจอดหน้าร้านผาด่าง มีคนไทยเป็นชายก้าวลงมาจากรถ เป็นคนขับรถ อีกคนเป็นไกด์ สอบถามเกี่ยวกับที่พักของผาด่าง และมีชาวต่างประเทศอีก 4 คน ทั้งหมดยกเว้นคนขับรถ เดินตามพี่เปี๊ยกไปเพื่อชมบรรยากาศและบ้านพักในผาด่าง หน้าร้านผาด่างมีแดดอ่อนๆแต่งแต้มโดยมีใบจากต้นมะม่วง และใบไม้ต้นประดู่ แผ่เงาเป็นร่มผืนกว้าง ทุกอย่างดูสดชื่นเหมาะกับการพักผ่อนพูดคุยเรื่องสบายใจ ไม่นานทุกคนเดินกลับมาและสั่งกาแฟร้อนคนละแก้ว ช่วงนี้เรามีโอกาสคุยกับ ไกด์หนุ่ม
คุณเล่าให้ฟังว่า ทำงานกับมูลนิธิหัสดินทร์ ที่พึ่งก่อตั้งได้ 3 เดือนเอง เป็นโครงการรักษาช้างป่วยจากการโดนทารุนจากควานช้างหรือจากการเร่ร่อนตามถนนคอนกรีต เหยียบแก้ว ขวดลิโพขวดกระทิงแดงตามป่าที่ชาวบ้านกินทิ้งไว้ตามไร่สับปะรดช้างเหล่านี้ต้องเจ็บป่วยอยู่นานและสุดท้ายตายอย่างทรมาน และปัญหาของช้างไทยทั่วประเทศอีกมาก

ก่อนจากกันเมื่อถึงเวลาเราต้องเดินทางเข้าบ้านกร่างตามสัญญากับตัวเอง เมื่อรถวิ่งผ่านด่านสามยอด จิตใจเราเปลี่ยนไป ใจที่ตั้งรอทักทาย อยากมองอยากเห็นใบไม้ทุกใบ สายลม แสงแดด เก็บเกี่ยวทุกช่วงเวลาที่เรามีป่าอยู่เคียงข้างอีกหน นกเขาเขียวหากินกรวดบนถนนแต่ต้องกระโดดหลบหนีเราหายไปป่าหญ้า ป่าหนามข้างทางมีสายตาเราลอดพงชะเง้อหา นกจับแมลงป่าบินตัดหน้าทำกริยาคล้ายๆนกเขาเขียว และสีสนิมเราถามจ๊อบว่าเห็นรึเปล่า ครับผมเห็นแต่ไม่รู้ว่าเป็นนกอะไร คล้ายๆนกจับแมลง ที่โป่งสุดถนนดำรอยเชื่อมกับถนนลูกรัง เสียงกระพือปีกหนักๆ นกเงือกบินบอกว่าเราอยู่ตรงนี้ ตรง ต้นไทรใหญ่ข้างซ้ายมือ บ้านเก่าของน้ำเพื่อนชาวป่า เราจอดรถมองหาเห็นเจ้าขยับตัวย้ายกิ่ง และพาให้เราเห็นลูกไทรสีแดงทุกพวงทุกช่อแดงสด นกสารพัดบินเข้าบินออกและหายซ่อนตัวตามใบที่ซ้อนทับกัน มองเห็นแค่ใบไม้ไหวๆแก่วงๆ นกแก้ว นกเขียวคราม แต่ย้อนแสงเหลือเกิน เราบอกตัวเอง ไว้ขากลับตอนเย็นเราจะมาใหม่ พวกเธอจะมาหรือเปล่า
รถค่อยๆวิ่งข้ามด่านตรงบ้านกร่าง สายตาเราจรดจ้องกิ่งไม้ตายแห้งยอดสูงโปร่ง ตามสัญญากับคุณป๋อง(พญาไฟแห่งราชบุรี) กิ่งไม้ที่คุ้นเคย เหยี่ยวแมลงปอขาแดง ไม่พบความหวังยังมีอีกครั้ง ขากลับอีกแล้วเราจะมองหาเพื่อคำสัญญา

รถจอดนิ่งตรงทางน้ำผ่า คุณป๋อง(พญาไฟแห่งราชบุรี) เสียงจากอดีตดังแว่วอีกครั้งทางเดินระแวกนี้ คนดูนกมักพบนกแต้วแล้วeared pitta มองหน้าหนุ่มจ๊อบ เราเลือกที่จะรอตรงนี้ หรือไป กม18 หนุ่มจ๊อบขอเลือกไปตามหาเพื่อน Blue Pitta

กลางถนน นกตัวนี้ยืนรอเราอยู่ Blue Pitta ตัวไม่เต็มวัย ทั้งตัวสีน้ำตาลใบไม้แห้ง อายุยังน้อย แค่ไม่กี่วัน วันนี้หัดหากินเองแล้ว นกตัวนั้นเดินกระโดดเบาๆ บนดินที่นิ่มนุ่มไปด้วยน้ำฝน เธอเลือกอยู่ตรงนั้น เสียงน้ำจากลำธารช่วยกลบเสียงกระซิบ รำพันดีใจของเราอาหลาน แสงแดดใสๆช่วยสอดส่องตามให้เห็นธรรมชาติลีลาของชีวิตเดียงสาต่อโลก กำลังกระโดดโลดเล่นหากินกลางป่าเงียบ มีเพียงเรา2คนกับ1นกน้อยที่ตามหา ใจของพวกเราอาหลานกำลังเดินตามเธอไปทุกฝีก้าวที่เธอกระโดดเดินไปข้างขวา และอีกนิดหายไปในพงหญ้าบางๆข้างลำห้วย ขาหยุดนิ่ง ตาของเราไม่ยอมหยุดจ้อง ควานหาตามลงไปในพงหญ้า แหวกหา แล้วเธอก็ขยับตัว ตาของเรากับนกน้อยสบตากันเพื่อบอกลา ก่อนจะบินเตี้ยเลียดข้ามลำธารหายไปในกลุ่มป่าใบไม้หนาข้างหน้า

เรามุ่งมั่นมาหา ไม่ต้องรอ ไม่ต้องเฝ้า โผถลาลงมาหามาบอกว่าอยู่ตรงนี้ มีเวลาเพื่อจดจำ เราขอบอกเจ้าว่า ขอบใจที่ให้เราได้พบเจอและขอย้ำความทรงจำด้วยอักษรอีกครั้งกับห้วงแห่งความระลึกผูกพัน สายลมเบื้องบนยอดไม้สูงซัดใบไม้ร่วงกราวใหญ่และส่งเสียงอย่างสบายใจก่อนเงียบนิ่ง เหมือนบอกว่า จงรอให้กาลเวลาพาทุกอย่างมา เพื่อพาทุกอย่างให้จากไป เท่านั้นเอง

FC นกตัวนี้บินไปเพื่อบินกลับมาเกาะที่เดิม ทั้งตัวเป็นสีน้ำตาลสนิม เธอเป็นครูของผมครับ กว่าครึ่งชั่วโมงที่หนุ่มจ๊อบถ่ายรูปของเธอ แสงแดดจับกิ่งใบไม้และไม่เพียงเท่านั้นแสงแดดจับแววตาใส ขนปีกทั้งตัวไล่สลับสีโทนกลุ่มน้ำตาลสนิม หมุนตัวอาบแสงอาทิตย์ให้ขนปีกกลับกลายเป็นแดงส้ม สายลมอารมณ์ดีแกล้งพัดขนอ่อนใต้โคนหางปลิวบางๆยั่วสายตาให้หลงเฝ้ามอง

28/11/50 ข้างบ่อไผ่ตง ดอกสาบเสือหรือดอกเสือหมอบ ดอกสีขาวบานหาตะวัน บางแห่งในผาด่างขึ้นเป็นดงเป็นกอพุ่มใหญ่ ดอกไม้ป่าขาวเล็กๆจืดชืดไม่สวยหรืองามเด่น เกิดเป็นดอกสาบเสือไม่เคยต้องโยกโอน ไหวระริก ระเริงกับสายฝนที่โปรยสายน้ำจนฉ่ำฟ้าและพื้นดิน ทำไมดอกน้อยเหล่านี้ถูกสาบให้กลายเป็นสัญลักษ์ต้นหนาว ชาวบ้านป่าแถบนี้เชื่อว่า หากดอกสีขาวสาบเสือบาน วสันต์กาลจากไปแล้ว เรากระชับเสือหนาวห่อตัวให้แน่นขึ้น มองเธออย่างขอบใจก่อนเดินลัดลานหญ้าไปห้วยก้านเหลือง

28/11/50 กระต่ายสีน้ำตาลตัวใหญ่ดวงตาที่ลืมค้างไว้แป๋วแหว๋วนิ่งเบิกมองฟ้าเบื้องบน เลือดแข็งค้างเลอะตามตัวเป็นหย่อม ในป่าผาด่างมีรอยอาลัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้เสมอ บางอย่างที่สำคัญอาจต้องเรียนรู้เข้าใจธรรมชาติผ่านเรื่องราวความเจ็บปวด แต่ธรรมชาติเลือกวิธีสอนคุณค่าแห่งความเข้าใจผ่านเสียงหัวเราะและรอยยิ้มได้อีกเช่นกัน

29/11/50 Olive- backed sunbird นกกินปลีอกเหลือง ทำรังอีกแล้ว คราวนี้ห้อยรังอวดชาวผาด่างตรงต้นมะม่วงโต๊ะกาแฟ มีแม่นกนั่งจุ้มปุ๊กหน้ารัง หนุ่มจ๊อบถ่ายรูปแม่นกเฝ้ารังด้วยอารมณ์รื่นเริงและมีเราชี้ชวนให้เด็กน้อยในผาด่างได้เห็นชีวิตน้อยๆกำลังกำเนิดในผาด่างอีกครั้ง กล้วยน้ำหว้าหวีงอมๆ เราเอาไปวางไว้หน้ารังนก(รังไม้)ขนาดใหญ่ บนต้นมะขาม ผลกล้วยมีร่องรอยถูกกัดแทะหลายรอย คงเป็นฝูงนกปรอดหัวสีเขม่า กับเจ้ากระรอกแสนซน2-3ตัว ขนุนสุกคาต้นมีร่องรอยถูกกัดโหว่ เราตัดแบ่งมากินไม่ทั้งลูก เหลือแบ่งไว้เผื่อสัตว์ป่าแห่งผาด่างอีกครั้ง เราบอกตัวเอง

นอกหน้าต่างในผาด่าง สิ่งที่กว้างใหญ่ สว่างตา สวยงามรออยู่เสมอ และหมายความว่าเราได้ยอมให้สายลมพัดเข้ามา เป็นเพื่อนยามพักผ่อน บางทีส่งเสียงครางและหยอกเย้ากับผ้าม่านผืนนั้น

ดอกไม้สีขาว แกนกลางสีม่วงเข้มห้อยระย้า เป็นดอกช่อกลุ่มและรวมกันเป็นพวงยาวข้างบ้านและหน้าบ้าน เอื้อมมือออกไปจนใกล้แตะได้ สวยหวานจนเอ่ยชมความงาม ร้องบอกชี้ชวนหนุ่มจ๊อบ มีผึ้งหลวงบินเข้าออกตอมเกษร ในใจหวังให้มีนกตัวน้อยๆบินมาชื่นชมเกษรอย่างผึ้งที่เวียนวน และสุดท้ายเราละถอย เสียดายเกรงความงามจะช้ำเพราะมือเราเอง

เรามีบางอย่างเป็นสิ่งดี และทำให้เราพึงใจอย่างเพียงพอ หากเราไม่มองหาสิ่งที่ดีกว่ามาแทนอีกเท่านั้นเอง







นกไต่ไม้ใหญ่ Giant Nuthatch ละลายตัวเองให้บางๆนะ คุณสายหมอก เรากำลังไต่ไม้ลงไปหาคุณพรเลิศ ครั้งแรกที่เราจะได้พบกับคุณพรเลิศ เราตื่นเต้นไม่น้อยกว่าคุณหรอก

ดอกไม้ในสายหมอก ลมจ๋า ขอลมพัดแรงๆหน่อย พวกเราเหล่าหญ้าบนดอยสูงต้องโอนเอนกระซิบบอกต่อกันว่า คุณพรเลิศของเรามาถึงดอยผ้าห่มปกแล้ว

กล้วยไม้ป่า มอส ไลเคน ต้นไม้ใสเสื้อ คุณไม่เดินผ่านเราไปเฉยๆ คุณมองจ้องพวกเรา และในแววตานั้น พวกเราเป็นประกายเจิดจ้า

เห็ด ขอนไม้ผุ เรากลายเป็นเห็ดสีน้ำแสนสวย คุณพยายามจดจำเรา เข้าใจในวิถีธรรมชาติของเรา

ดอกชมพูพิมพ์ใจ คุณรู้จักชื่อ และชมว่า เราเป็นดอกไม้แสนสวย พวกเราและดอกไม้บนดอยผ้าห่มปกตั้งใจเตรียมเร่งดอก กลีบทุกสีทุกช่อเพื่อบานให้คุณได้พบความชื่นใจ

จานสี มีสีของพวกเราในจานสีใบนั้น


ขอบคุณคุณพรเลิศและเพื่อนๆที่มาเยี่ยมพวกเรา เราระลึกถึงคุณเสมอเพื่อนผู้แสนดีต่อสรรพชีวิตที่มีเหลือน้อยมากแล้วในประเทศเล็กๆแห่งนี้

ไม่มีความคิดเห็น: