วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2552

ผาด่างกับเพื่อนเก่าเดินป่า outdoor of thailand

รอยจำผาด่าง14

15 /2/51 พี่หน่อย และเพื่อนคนอื่นๆเริ่มเดินทางมาถึงผาด่างแล้ว พี่เปี๊ยกขับรถไปซื้อตั๋วล่วงหน้า เข้าเขตอุทยานให้เพื่อนเข้าโป่งลึก ตามหานิยามของสายน้ำเพชรบุรี เราสาระวนกับการตกแต่งสถาน ที่เพื่อนๆชมรมยิงธนู thailand outdoor จัดเลี้ยงอาหารกลางวันแก่เด็กบ้านป่าเป็นพิเศษ พี่หน่อยใช้ GPS สำรวจพื้นที่เพื่อติดตั้งสัญญาณ wireless อีกไม่นาน ผาด่างบ้านป่าแก่งกระจาน จะมีอินเตอร์เนทบริการให้ลูกค้า ไชโย…..

เสียงพูดคุยสะท้อนลอยตามน้ำและภูผาปลุกเรากลางดึก เป็นสัญญาณว่าเพื่อนอีกกลุ่มมาถึงผาด่างแล้ว ก่อนเราหลับไปอีกครั้งและตื่นเลยหลังหกโมงเช้าเล็กน้อย

16 /2/51 เพื่อนใหม่และเก่าเข้ามาทักทาย ด้วยความดีใจ ที่ได้พบกันอีกครั้ง เสียงคุยและหัวเราะเริงร่า พูดคุยทุกเรื่องเกี่ยวกับผาด่างทั้งนั้น ต่างชิงกันพูดบอก ผาด่างเปลี่ยนไป…จากเดิมมากมาย สวยกว่าแต่ก่อนมาก สวยจนจำไม่ได้ จำได้ว่าเมื่อก่อนที่เคยมามีแค่ต้นไม้ ต้นเล็กๆที่เพิ่งปลูก

ทุกคนบอกฝากให้ตื้นตันใจ….ยินดีทีจะกลับมาเยือนอีกแน่นอน เราหันไปยิ้มให้กับแสงตะวันและต้นไม้ ไม่ว่าจะ คนหรือสัตว์ต่างๆ หรือไม้ป่าในผาด่าง ต่างช่วยกันประคับประคอง อดทน รอคอย จนผ่านชะตากรรมที่ยากจะก้าวพ้นผ่านในอดีต วันนี้ธรรมชาติและสรรพชีวิตที่อาศัยแผ่นดินผาด่าง ต่างทำหน้าที่สร้างความสดใส สดชื่นประทับใจแก่ผู้มาเยือนอีกครั้ง

เด็กน้อยมาถึงกันแล้ว 150 คนพร้อมกับคุณครูด้วย เด็กบ้านป่านั่งเงียบเรียบร้อยในเต๊นท์ผ้าใบสีฟ้าลายทางเหลือง ลุง ป้า น้า อา พี่ๆชาวเมือง เริ่มเข้ามาสาทิตวิธียิงธนู เรื่องใหม่สุดพิเศษในชีวิตเด็กน้อยบ้านป่าได้เริ่มขึ้นแล้ว อีกครั้งที่ผาด่าง

การเข้าแถวชะเง้อดูเพื่อนที่ถึงคิวได้ยิงธนูก่อนและรออย่างมีความหวังใกล้ได้จับคันธนูแล้ว จากแถวตรงกลายเป็นแถวโค้งวงเหมือนคันธนูที่ถูกดึงจนโก่ง และวนเวียนเข้าต่อแถวซ้ำๆ เพื่อหวังจับลูกศรเล็งเป้าหมายวงกลมแดงสดข้างหน้า ส่งใจและลูกศรไปที่เดียวกัน

มุมไอติม เด็กวนเวียนคนละหลายๆรอบ ปากละเลียดกินไอติม และหันมองรอบๆผาด่าง มองพี่ๆจากกรุงเทพที่แต่งตัวกันสวยๆ แววตาบริสุทธิ์จดจ้องมองชุดสวยของเด็กในเมือง หนูน้อยคงอยากใส่อยากได้อย่างคนกรุงหรือเปล่า

ของฝากจากเพื่อนๆในเมือง สิ่งที่เราร้องขอ เสื้อผ้ารองเท้าเก่า ของที่เลิกใช้ เด็กป่าได้เสื้อแจก ก็เอาพาดบ่ากลับบ้าน ได้ตุ๊กตาก็อุ้มกอดอวดกันไปมาให้เพื่อนดู เสื้อตัวโตที่ได้ไปในมือเด็กน้อย หนูใส่ไม้ได้ แต่จะเอาไปให้แม่ ของเราจะเอาไปให้พี่ ให้พ่อ ของเธอแลกกับเราได้หรือเปล่า เธอได้กระติกน้ำด้วย แต่เธอได้ตุ๊กตาสีแดง สวยจัง …

บ่ายโมงกว่าแล้ว เด็กๆทยอยกันกลับไปหมดแล้ว เพื่อนๆขับรถร่วมเกือบ10 คัน เข้าป่าไปเที่ยวโป่งลึกกัน เรามองลานหญ้าที่ร้างผู้คน ไม่นานมานี่ ผู้คนทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ชายหญิงและเด็กๆต่างวิ่งเล่น เดินกันไปมาทั่วลานหญ้าแห่งนี้ แต่เวลานี้ กลับมีแต่ผ้าสีขาวนวลผืนใหญ่ปลิวหยอกเย้ากับสายลมเล่นเท่านั้นที่ไหว สะบัดโบก พะเยิบไปมาเท่านั้น

ป้ากุ้งครับ เสียงเรียกเรา เมื่อหันไปดูเด็กชายชื่อเบส เด็กชายตาโตหูกางยิ้มกว้างคนที่ชอบยิ้มให้เราเสมอๆ เด็กชาย ลูกกำพร้าที่เพิ่งย้ายมาอยู่หมู่บ้านเดียวกับเรานั่นเอง อะไรเหรอลูก เสียงเราถาม ป้ากุ้งอ่านเรียงความของผมหรือยังครับ อ้าว เอามาให้ป้าแล้วเหรอ ผมฝากไว้กับมอส ครับป้ากุ้ง

17/2/51 มอสส่งกระดาษสี่เหลี่ยม2 ชิ้น เป็นกระดาษที่ฉีกจากสมุดเก่าๆพับอย่างประณีต ของเบสครับ ฝากไว้ให้ป้ากุ้ง ตั้งแต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เราแกะกระดาษสี่เหลี่ยมเล็กๆ อย่างค่อยๆกลัวกระดาษเก่าเปื่อยจะขาด แต่ใจร้อนอยากอ่านอยากรู้เรื่องราวข้างใน

ตัวหนังสือที่ปรากฎบนกระดาษเปื่อยเก่าคือความฉลาดของหนูน้อยกำพร้า พยายามช่วยตัวเองก้าวผ่านชะตากรรมลำบากของชีวิต เราสะอึก อั้นในอกเมื่อเห็นข้อความเดียงสารันทด จริงใจกับความจน แสนซื่อของหัวใจเด็ก ป2. ใจของเราพบอะไร ความเข้มแข็งที่ความลำบากยากแค้นทำร้ายหนูน้อยไม่ได้ เด็กคนนี้พยายาม พึ่งพา ฝากความหวัง สื่อสารถึงเรา ขอความช่วยเหลือ ตัวหนังสือสวยมีระเบียบเต็มไปด้วยความรัก ความห่วง ความผูกพันของคนในครอบครัวเพียง 3 คน ย่า ลุงและตัวเด็กเอง

15/9/50 เด็กคนนี้พี่กุ้งไม่เคยเห็นหน้า อ๋อ พึ่งย้ายมา อยู่แถวพุอ้อ พ่อ แม่ตายตอนยังไม่ขวบ มาอยู่กันแค่ 3 คน เสียงไอ้ยุงฝ่ายข่าวผาด่างรายงานให้เราฟัง แล้วชื่ออะไร เราถามต่อ ชื่อเบสครับป้ากุ้ง คราวนี้เป็นเด็กชายฟลุก ลูกชายไอ้ยุงเป็นฝ่ายตอบบ้าง อยู่ชั้นป 2 โรงเรียนเดียวกับฟลุก เรามองตามหลังเด็กกำพร้าที่ปั่นจักรยานกลับบ้านไปทางพุอ้อ


30/1/51 เด็กชายเบสที่เราคุ้นหน้าบ่อยๆ บางครั้งที่โรงเรียน บางทีหน้าร้านค้าผาด่าง และเห็นประจำคือหยุดกินน้ำที่ผาด่างหลังจากปั้นรถจักรยานขึ้นเนินเพื่อกลับบ้าน ป้ากุ้งครับ เสียงเรียกเรา เมื่อหันไปมอง เป็นเบส เด็กน้อยตากลมมีแววฉลาดร่าเริงนั่นเอง มีอะไรเหรอลูก ผมอยากเขียนเรียงความให้ป้ากุ้งอ่านครับ ได้ซิลูกเราตอบด้วยความยินดี ดีใจ แล้วหนูจะเขียนเรื่องอะไรครับ ผมจะเขียนเรื่อง…จน…ครับ เราเป็นฝ่ายเงียบและเด็กน้อยก็หันหลังเดินจากไปพร้อมกับรอยยิ้มเมื่อเราเริ่มพูดได้แล้ว เขียนมานะลูก ถ้าไม่เจอป้ากุ้งฝากไว้ที่ชาวผาด่างก็ได้
บ้านของเบส ยายของเบส ที่นอนของเบส

ไม่มีความคิดเห็น: