วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2552

January 14, 2009 รอยจำผาด่าง pkkk2714 padangcamp.com




ของขวัญ ของชาวผาด่าง เริ่มกันล่าช้ากว่าของชาวบ้านทั่วๆไป แต่ชาวผาด่างเข้าใจว่าตราบใดที่มีผาด่าง ปีใหม่การฉลองของเราจะช้าเป็นอย่างนี้ทุกปีไป



เด็กๆบ้านป่า ตื่นเต้นกับการรอและฝักใฝ่เวลาที่จะได้ของขวัญ เฝ้ามองที่จะได้จับฉลาก ชิ้นไหนโบว์สีแดง กล่องลายๆ ทำไมมีแต่สีแดงลายตาเหมือนกันไปหมด แสงเทียนสีส้มแดง จุดติดไฟรอบวง ข้างกองของขวัญ สร้างมิติเสริมเสนห์ของห้วงเวลาเป็นดินแดน….เนรมิตร

มีผลึกของความหวังและใฝ่ฝันแสนสวยงาม ทุกคนส่งเสียงหัวเราะ สดชื่นและร่าเริงมีลมหนาวๆทำให้เราต้องคอยกอดกันตลอดเวลา



ภาพแต่ละภาพ เราและจ๊อบบรรจงสร้างสีสันจากใจของเราทั้งคู่ เป็นของขวัญซ้อนของขวัญ ชาวบ้านป่าบอกว่า ไม่เคยคิดหรอกว่า คนจนคนป่าอย่างพวกเค้าจะมีความทรงจำ จำแลงสวรรค์น้อยๆกลางระเบียงบ้าน มีป่าล้อมรอบ มีน้ำเป็นสายใย มีภูเขา มีท้องฟ้าช่วยส่งมอบดาวทุกดวงร่วมกาลเวลากับพวกเราชาวผาด่าง



ก่อนตะวันจะลับไปท่ามกลางลมแรงของเหมันต์ เราเพิ่งเห็นเธอเป็นครั้งแรก เรามองตามหาพวกเธออีก พบว่าพวกเธอมีกันหลายดอก แต่ไม่มากนัก ต้องตั้งใจเอามือแหวกกลางใบบางยาว นั่นทำให้พวกเธอซ่อนกายได้ดีบานเงียบๆตามซอกหรืบพวงยาวเลื้อย ดอกของเธอเล็กแค่มดแดงเอง สีม่วงข้างในด้านนอกสีขาวเจือม่วงจางๆ




เราไม่เคยเห็นกันมาก่อน แต่บ้านใหม่ยกสูง ทำให้เราอยู่สูงเสมอกันเพื่อรู้จักกันใช่ไหม พวงยาวใบเรียวแคบของเธอละเลื้อยเล่นกับเราตอนนอนกลางวัน

ไม่รู้จักชื่อ ดอกเล็กๆสีม่วง เราอยากเอาเธอไปอวดเพื่อนในห้องtws กล้องที่เราเคยจับไม่นานและทิ้งไปพร้อมกับสร้างเรื่องกับเหตุผลยาวเหยียดงี่เง่าไร้ค่าเยอะมาก

แต่เพราะเธอแอบบานในซอกซ้อนของกลุ่มใบยาวเป็นพวง ทำไมเธอต้องโยกไปมาด้วยเล่า จากยืนจับกล้อง เป็นนั่ง และนอนบนพื้น แต่ละครั้ง เสียงดังแช๊ะ ๆ ๆ ดังไปเรื่อยๆ เธอสวยกว่าในรูปมากมาย ลมจ๋าหยุดแกล้งเล่นกันพวงใบเลื้อยหน่อยซิ ดอกม่วงเบลอๆเยอะจัง




January 14, 2009 แสงแดดยามเช้า กับกล้องในมืออีกที ดอกสีเหลืองเมื่อวานบานเต็มดินแดงเม็ดกรวดแข็ง วันนี้เราเห็นแค่ช่อเดียว กับข้างที่ดอกบานเมื่อวาน วันนี้ลีบเหี่ยวเป็นคนแก่ บอกเราว่าเมื่อวานกับวันนี้คือแตกต่างเสมอ จงทำความฝันให้เสร็จสิ้นก่อน ทันตะวันลาฟ้า

ลูกกลมๆสีแดง จำได้ จำได้ พี่หวัด หนูอยากได้ต้นนี้ไปปลูกที่บ้าน พวกเราช่วยกันแหวกป่าข้างๆ เพื่อหาต้นอ่อนเอากลับบ้านด้วยกัน เสียดาย กับเสียดาย



ผ่านไปไม่นาน เราเห็นเธอในบ้านของเราเอง เธอมาอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ และออกลูกสีแดงกลม เหมือนย้ำให้เรารู้ว่า นี่ไงฉันมาอยู่กับเธอ และไม่ใช่มีเพียงหนึ่งเธอลองมองดูเอา ว่ามีพวกเราเท่าไหร่

ล้อมรอบบ้านป่าของเธอ เธอซุ่มซ่ามอีกแล้ว หนามแหลมกับหน้าผากเธอ เลือดไหลซิบๆ แต่เรายังไม่สนใจ อยากอีกแล้วเอาลูกกลมสีแดงไปอวด เพื่อนห้องtws

ดินแดนพืชทนแล้ง ดินสีแดงดอกไม้สีแดง ไม่ก็สีส้ม ดอกกระเจี๊ยบบานเก็บกินได้แล้ว ทุกอย่างล้อมตัวเราเป็นสีแห่งความแห้งแล้ง สีตะวันยามใกล้เที่ยง สีใบไม้กรอบออกโทนร้อนแรง หรือร้อนแค้นอดอยาก



เรารักเธอทุกสีที่เธอเป็น และแสดงออกเต็มที่เปิดเผย ให้เรารู้ว่าธรรมชาติสื่ออะไรให้เราเก็บเกี่ยวเรียนรู้อีกครั้ง พลวัตรของป่าครับ เราจำคำนี้จากไหน ไม่นานเกินลืม ชายคนหนึ่งในห้อง tws เราจำได้แล้วชื่อ ประพนต์ กับความรักกีร์ตาร์ เป็นสัญลักษ์คู่กัน





ลมโบก ธงตรงเส้นสตารท์ของการเดินทาง จุดหมายปลายทางถ้ำพุไทร ห่างจากผาด่างของเราแค่ 7 กิโลเอง รถวิ่งตามลูกรัง เสียงคุยกันไป ดินแดนท่องเที่ยว ทำไมถนนเป็นลูกรัง อบตบ้านติดกันกำลังซ่อมถนนที่ดีพร้อมอยู่แล้วเพื่อพัฒนาซ้ำๆอีก

แต่ทำไมอบตของห้วยแม่เพรียงไม่ทำบ้าง พี่หวัดบอกว่า อบตห้วยแม่เพรียงของเราไม่มีเงิน เราไม่งงสักนิดกับคำนี้ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตั้งอยู่ในตำบลห้วยแม่เพรียง ปากทางคือหมู่บ้านด่านโง หมู่บ้านกับอุทยานเกิดพร้อมกันตั้งแต่ปี 2527 ชาวบ้านด่านโงยังยากจนกวาเดิมนิดหน่อย ทำไร่ ทำงานโรงงาน ดักสัตว์ส่งร้านอาหารป่าต่างตำบล ตัดไม้เนื้อแข็ง ขุดต้นไม้แต่งสวน แกะแคะกล้วยไม้ ชาวบ้านเป็นโจรในสายตาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และใครคือคนรับซื้อของโจร


แผนที่บอกว่าปลายทางของเรามาถึงแล้ว ตื่นเต้นนิดๆ เรากำลังทำตัวเป็นโจรเหมือนกันกับชาวบ้าน ลอดลวดหนามที่อ้ากว้างถ่างอยู่แล้ว ฝ่าฝืนแอบเข้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เถาวัลย์ กับก้อนหินสีดำเทา someone like you to believe ให้เราเกาะเกี่ยว เหยียบแง่งหินจนมั่นใจ ทำให้ทางชันลื่นมีใบไม้สีฤดูแล้งให้เรามองและเหยียบย่ำ หนทางลื่นของเราเดินสูงขึ้นไปข้างหน้าได้ you’re waiting all around the way .

บางจุด เราหยุดพัก และพบกลุ่มดอกดินสีสวยรูปร่างคล้ายเห็ด กระจัดกระจายไม่ห่างกัน แต่ละก้าวของเราจึงต้องระมัดระวัง this time, friendship was happened in my soul absoloutly.
บางดอกตูมสีแดงกำมะหยี่เข้มมืด และบานเสมอดินเป็นสีแดงสดราวกับเลือดในตัวของเรา เสียงพรานหวัดคู่ใจบอกว่านี่เป็นอาหารโปรดของเก้ง และเลียงผา และสัตว์ป่าหลายชนิด

มีไม้ตอกตะปู ของชาวบ้านป่าคงทำไว้ เป็นห้างดักยิงพวกเจ้าส่งตลาดอาหารป่าไม่ไกลจากที่นี่ แต่บางกลุ่มของดอกดินก็เหี่ยวแห้ง เปลี่ยนสีชราดำจุดขาว
เราตีความหมายเข้าข้างตัวเอง ว่าถ้าอดอยากที่สุด แถวนี้คงเป็นที่สุดท้ายเจ้าจะเลือกอาหารเพียงมื้อเดียวกับชีวิตของเจ้า เพื่อนพ้องพี่น้องที่ร้องโหยหวนหลังเสียงดังปังก้องป่าและเจ้าไม่เคยพบกันอีกเลย


ร่องลอยที่นอนและขี้ที่แห้งแล้วและยังสดอยู่ เรามาถึงบ้านเพื่อนสัตว์ป่าของใครกัน เจ้าหนีเราไป นานแล้ว แต่รอยที่เจ้าทิ้งไว้ทำให้เรามีข้อมูลของเจ้า To keep for wonder myself.



ความมืดมิด และกลิ่นอับชื้นบอกว่าเราอยู่ในถ้ำ เทียนและไฟฉาย ฉายแสงส่องให้พบห้องที่กว้างใหญ่เพดานทรงกลม ในนี้ เส้นสายทุกเส้น
หินทุกก้อนเตี้ยและสูง คือความอ่อนหวานนุ่มนวลไม่แข็งแกร่งจริงจังอย่างผาหินภายนอก หินข้างนอก กับหินในนี้ บอกทุกอย่างคือความไม่เหมือนกัน


ในถ้ำนี้หินมลสีขาว นวลงาช้างลื่น จากกำแพงรอยน้ำไหลเป็นวงเอนอ่อนช้อย หลายเส้น เป็นเส้นโค้งบางๆ บ้าง ห้องแห่งความมืดและความสวยงามทำให้พวกเราต้องเดินและก้าวไปรู้จักพวกเธออย่างช้าๆ
ทุกย่างก้าว สุภาพและ สุภาพขึ้นไปอีกเมื่อเราย้ายไปทีละห้อง ทีละชั้น อยากเข้าใจให้มากที่สุด เท่าที่เจ้าแห่งกาลเวลากำหนดให้ มีอะไรที่จะบอกเรื่องราวเมื่อเราเดินออกไป


ห้องสีขาวงาช้างเก็บตัวเงียบ แต่แล้วแสงไฟของเรากระทบเพื่อนเจ้าของบ้านแห่งนี้ หลายกลุ่มเกาะนิ่งติดเพดานเป็นกลุ่ม ๆ ไฟและเสียงพูดคุยของเรา
ค้างคาวบินหนีไปมา ไปห้องโค้งเล็กวงโน้นและออกทางงวงช้างอีกห้องหนึ่งเสมอ เจ้าค้างคาวสีเทาดำอวดบ้านสวยสีสะอ้านให้เราฉายไฟตามหรือกลัวเราคนแปลกปลอม อีกหรือนี่

เราใช้เวลาที่มีด้วยกัน ห้องสีดำบอกเล่าว่า นี่คือสถานที่ ที่จะไม่มีดวงดาวทอแสง ห้องแห่งความมืดชั่วรัตติกาล หินที่สวยกลม นวลตาละมุนละไม คืองานของน้ำป่าในหน้าฝน ซึมไหลผ่าน เจ้าแห่งเวลาสร้างและกำหนดให้ทุกอย่างมารวมกัน
เธอเห็นรากของต้นไทรที่แหวกร่องหินจากยอดเขาลงมาในนี้ และตรงพื้นดินที่เธอเหยียบและรู้สึกได้ว่านุ่มเท้า แต่ดำคืออาหารของต้นไทร อาหารดินดำชุ่มด้วยความอุดมสมบูรณ์ ค้างคาวบินไปมาบอกเราด้วยการส่งเสียงอุลตร้าซาวด์โซนิก ว่านั่นคือมูลค้างคาว เราคือผู้สร้างดินดีนี้


ถ้ำนี้ ไม่ใหญ่มากจนต้องกลัวหลง ไฟดวงแรกจะจุดตั้งไว้เป็นเป้าหมายทางออก เราเดินหาคำถามกับความสวยงาม มือของเราแตะทาบหิน หินเล่าความรู้สึกชื้นเย็นเป็นมิตรกลับมา หินงอกหินย้อยมีไม่มาก แต่เรากับหินงอกเล็กๆที่นี่ได้ร่วงสร้างเสียงเพลงด้วยกัน เสียงไพเราะให้ตัวเองได้ซึมซับ
เราคือธรรมชาติเช่นหินสีนวลเกิดจากน้ำป่า ไหลหยดรินทีละน้อย กลายเป็นหินปูนแสนเปราะบาง เรียงเป็นตัวโน๊ต แต่เราได้คำตอบ ถ้ามีนักท่องเที่ยว ช่วยเคาะ ช่วยเคาะ สร้างเสียงเพลงหินอ่อนแอเปาะนี้จะหักพังหรือเปล่า เราทำผิดอีกแล้วหรือนี่



จากห้องนี้ tws อาจารย์ปันยา เราอดไม่ได้ที่จะแวะไปหาแม้จะเลยเวลาของการเยี่ยมแล้ว สามทุ่มก่อนเข้ากรุงเทพ เราเลือกกลับไปทางราชบุรี เราอยากรู้จักห้องนี้เพิ่มขึ้น และงานหลากหลายที่ธรรมชาติ กำหนดให้อาจาจารย์สร้างคนรักธรรมชาติ หาสิ้นสุดไม่ ก่อนกลับอาจารย์สอนมารยาทในห้องนี้ และเราคิดว่ามีบางคำเน้นให้ทราบเป็นพิเศษ และเป็นเรื่องสำคัญจะละเลยเสียมิได้

















ไม่มีความคิดเห็น: