วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2552

tws & padangcamp 2


ไม่เคยมีพวกเราคนใดเคยเห็นสมัน กวางงามของโลก
ที่เคยมีอยู่เฉพาะดินแดนสยามบนท้องที่ราบลุ่มภาคกลางอันเคยเป็นพรุน้ำจืด

ดงหญ้ากว้างใหญ่ไพศาลเป็นแหล่งนิเวศของสมัน


ราวศตวรรษที่ผ่านมางานพัฒนาเกษตรกรรมพลิกแผ่นดินของสมันกลายเป็นนาข้าว
นำมาสู่ผลผลิตข้าวจำนวนมหาศาลเพื่อการส่งออก แล้วสมันก็หมดไปเหลือไว้เพียงเศษซากและความทรงจำ

ชวนให้ตระหนักถึงผลได้เสียของงานอนุรักษ์และการพัฒนา


งานศิลปกรรมอาจเป็นพยานยืนยันว่าครั้งหนึ่งไทยเราเคยมีกวางงามที่สุดในโลกแต่วันนี้ไม่มีวันมีอีกแล้ว
ใครจะรู้บ้างว่าการสูญเสียนี้มีผลต่อเราอย่างไร


The extinction of the wilds...nowsaday, they 're all around us .


ไม่นานนัก..หลังการสิ้นสุดสายพันธุ์ของสมัน กวางงามแห่งลุ่มเจ้าพระยาโคไพร ก็หายหน้าหายตาไปจากพลาญหินของขุนเขา..พนมดงรักและยังไม่เคยมีใครพบเห็นอีกเลย

บางทีไม่มีใครคิดว่าเขาปลายพู่คู่งามที่แขวนประดับอาคารนั้น จะกลายเป็นสัตว์ล้ำค่าตัวสุดท้าย.............ที่เหลือเพียงซากแห่งความทรงจำ.............

แรดขนยาวโบราณสองนอขนาดเล็กที่สุดในห้าชนิดของแรดที่มีในโลก เคยท่องนิเวศอยู่บนสันแนวสะพานแผ่นดิน ตนา ว ศรี ยันถิ่นสุมาตรา

น้ำท่วมโลกครั้งใดหนอมาแบ่งแผ่นดินเป็นเขตแดน กะสู้ หรือ กระซู่ เคยย่ำเหยียบดินโคลนกลางป่าฝนทรกำลำบาก สู้ฝ่าพงดงทากกัดกอระกำ เตย หวาย ไม่ว่าป่าสูง เขาชัน หรือหุบเหว

สู้อดทนกระทำภารกิจยากลำบากหาใครทดแทนได้ยากยิ่ง

ป่าลุ่มต่ำ ชนเชื่อมไหล่ทวีปกันแนวชายเลน พื้นที่เป็นหนองบึง พรุน้ำจืดพรรณไม้หนามแดง ลุมพี กุ่มน้ำ กระทุ่ม

มีอยู่ทั่วไปง่ายต่อการรุกพื้นที่พัฒนาอารยธรรมของมนุษย์ป่าลุ่มต่ำ

ในธรรมชาติหมดไปอย่างรวดเร็วการส่งออกนอระมาด

มีหลักฐานอยู่ในเอกสารการค้านับแต่กรุงศรีอยุธยา..ปีละหนึ่งพันนอจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เหลือเพียงจำนวนไม่กี่สิบนอ

จดหมายเหตุจีนบันทึกถึงการใช้หนังระมาดหุ้มเกราะให้รถศึกในการสงครามฮ่องเต้

มีจอกสุราสลักเกลากลึงจากนอระนาดการล่าทำลายระมาด

เพราะค่าเชิงเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ..ทำกำไรมหาศาลเทียบน้ำหนักชิ้นส่วนระมาดเท่ากับราคาทองคำมีซากระมาดแสดงอยู่ที่ Natural History Museumในหลายประเทศตัวที่ยังมีชีวิต...เหลืออยู่เพียงพื้นที่เล็กๆแห่งหนึ่งในอินโดนิเซีย udjong kulon

ระมาด หายไปจากแผ่นดินสยามราวศตวรรษที่ผ่านมาแต่สัญญาสุดท้ายยังคงเหลือไว้เป็นชื่อสถานที่บางแห่งในปัจจุบันเช่น บ้านปลักแรด บ้านหนองแรด" เธอพึงเที่ยวไปอย่างแรดนอเดียว "พุทธวจนะ..กล่าวสอนสาวกให้วางครรลองชีวิตแบบ..ระมาด

ป่าร้าง..ผู้คนในเมืองใหญ่ที่กำลังพัฒนาไปสู่ความป็นมหานคร

มีความใกล้ชิดกับสัตว์ป่าในสองสถานะ..ตามวงจรมลทินที่ไหลเวียนไม่รู้จบ

เป็นสามเศร้า....ผู้ล่า...ผู้ค้า...ผู้ซื้อ....บางคนมีรสนิยมชอบรับประทานอาหารป่า....โดยมิได้หวังพึ่งพาในรสชาดว่าจะเป็นเก้งหลอก..หรือกวางปลอมก็ตาม

... นก..หนู...งูเห่า..เป็นเพียงกระดูกโครงไก่สับ กับเครื่องเทศอันร้อนแรง...


บางท่านชอบพาครอบครัวตัวเล็กไปเที่ยวชมสวนสัตว์บ่อยๆชี้ชวนกันชมแววตาที่เศร้าหมองของสัตว์ป่าในกรงขัง.. ด้วยความร่าเริงใจไม่สนใจจำว่าสัตว์ป่าที่เห็นนั้น

ใช่ตัวเดิมที่เคยมาชมครั้งก่อนหรือไม่



minus zero # 1 แมวลายหินอ่อน ..Felis marmorata
การเก็บตัวอย่างนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธรจำนวนไม่มากนักในครั้งนั้น


ไม่มีใครเฉลียวใจเลยว่า...นกเจ้าฟ้าฯ จะกลายสถานภาพเป็น สูญพันธุ์
จนบัดนี้ก็ยังไม่เคยมีรายงานการพบอีกเลยนับแต่นั้นเหลือเพียงซากยัดสำลีอยู่ตามพิพิธพัณฑ์ต่างๆไม่กี่แห่งในโลก


แมวลายหินอ่อน..ก็เช่นกันเป็นเป้าหมายหลักของพวก hard core ที่มีธุรกรรมเกี่ยวกับสัตว์ป่าเพียงเพราะสถานภาพหายากที่สุดและตกอยู่ในอันตรายใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งที่ร้ายก็คือ..

ความปรารถนาที่จะหาตัวเป็นๆจากป่ามาเพาะพันธุ์ขายในราคาสูงลิบลิ่วเป็นสัตว์เลี้ยงไฮโซ..ราคาแพงเช่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับแมวป่าแสนสวยหลายชนิดในโลกเช่น..ocelot ...jaguarandi จากอเมริกาใต้...margay จากอาฟริกา..เสือดาวหิมะ จากหิมาลัย ฯลฯ


วันนี้ถึงคิวของ....แมวลายหินอ่อนและแมวดาว..ของป่าบ้านเราเราไม่เคยรู้สถานภาพที่แท้จริงของแมวลายหินอ่อนในป่าไทยแทบจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า



มันยังมีชีวิตหลงเหลืออยู่หรือไม่จนกระทั่งมีภาพถ่าย camera trap จับภาพได้เป็นครั้งแรกอย่างน่าชื่นชมและขอบคุณสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ แหล่งมรดกโลกห้วยขาแข้งทำให้รู้ได้ว่าแมวลายหินอ่อนแสนสวยและหายากยิ่งนั้น..มีอยู่จริง

ขอช่วยกันอธิษฐานด้วยเถิดว่า..เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุกแห่งในเมืองไทยคือ..สัญญาสุดท้ายที่จะเป็นบรมโพธิสมภารของสัตว์ป่าสมกับคำว่า...wildlife sanctuaryและถนอมรักษาพันธุ์แมวลายหินอ่อนไว้ให้ได้ก่อนที่จะสูญสิ้นไป

ตอบ

ตั้งแต่มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืชแห่งประเทศไทยถึงเวลาแตกสลาย
การอนุรักษ์ในประเทศไทย ถูกปกคลุมเข้าสู่ยุคมืด อย่างยาวนาน


นักอนุรักษ์ต่างดิ้นไปลำพังตามทางลางๆที่มองเห็น
บางคนระหกระเหิน รอนแรมหลงเดินเข้าห้องนี้ และห้องโน้น
ค้นหา ค้นพบ คนรักและเข้าใจธรรมชาติในแต่ละห้อง


ทุกคนในห้องมืดเล็กๆนั้นต่างพยายาม รักษาธรรมชาติที่แหลกเหลว
หลายเวที พยายามรวบรวม ตั้นต้นคิด....เสวนา

ตั้นต้นคิด....เสวนา เริ่มจากกลุ่มเล็กๆพากันสู่ฝันให้ตัวเองตั้งใจไปถึง
แม้เมื่อหันหลังมาแล้ว เหลือเราเพียงคนเดียว หรือเพื่อนไม่มากคน


แต่รู้ว่าใช่แล้ว เราเริ่มแล้ว คือ ผู้เริ่ม อยู่ เป็น เราเอง
อย่าหวังจะภูมิใจ ให้รางวัลกับตัวเอง ความภูมิใจคือบันไดของงานข้างหน้าที่สูงยิ่ง หรือคืออุปสรรคธรรมดาเอง

จงอย่ารอเพื่อนร่วมอุดมการณ์ เพราะบรรพบุรุษเราคือชนกลุ่มน้อย

อยากแบกรับความอาลัยของอาจารย์ปันยา ไชยคำ ไว้บ้าง





ไม่มีความคิดเห็น: