วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2550

นับนกเขาใหญ่ 2007

13/7/50 ทางหลวงแผ่นดิน ปราจีนบุรีถึงเขาใหญ่ ตารางเวลาสิ้นสุดแค่วันที่15/7/50 และวกย้อนลงทิศใต้กลับสู่ป่าตะวันตกแก่งกระจาน จะเริ่มเขียนตรงไหนเวลาที่ผ่านไปยังชัดเจนไม่ได้เลือนหายแต่ยาวนานจนต้องย้อนหวนนึกถึงและจัดเรียงฉากความทรงจำ
ด่านเขาใหญ่ ป้ายฉลองมรดกโลก ผ่านด่านโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เตือนใจเราว่า งานนี้ของฟรีมีในโลกเริ่มขึ้นแล้ว ทางรถวิ่งเรียบนิ่งสบายๆนานๆจึงจะมีรถวิ่งสวนมา เปิดกระจกยื่นหน้าออกนอกรถ ให้ลมวิ่งปะทะหน้าเราไปเรื่อยๆ สูดดมกลิ่นป่าเขาใหญ่ให้สมกับความคิดถึง ชุ่มชื่นใจกับสายลมยามเย็น

ทุ่งหญ้าข้างหน้าและนกที่บินหาย บินโฉบและหายไปอีกครั้งอยู่ข้างหนองน้ำเล็กๆยั่วให้เราเดินตัดทุ่งหญ้าเข้าไปมองหา นกกระเต็น stork-billed kingfisher เรารีบชี้ชวนให้เพื่อนช่วยกันหาเพราะเป็นนกใหม่ของเรา กว่าเราจะรู้ตัวขากางเกงของเราก็เจอกับดักธรรมชาติ ดอกหญ้าแห้งติดขากางเกงแน่นเต็มไปหมด และอาการคันก็ตามมา



ก่อนแสงอาทิตย์จะเลือนหาย ภาพความทรงจำยามเย็น เป็นภาพ 2 หญิง 4 ชายยืนจับกลุ่มคุยกันเบาๆข้างรถสีขาวบนถนนเส้นสีดำยาวตัดกับทุ่งหญ้าสีเขียว มีกวางเดินทอดน่องกินหญ้าไม่มีเมียงมองกลุ่มของเราอย่างหวาดระแวงภัย รอบชายทุ่งที่ไม่ไกลเป็นป่าใหญ่ทึบทะมึนมีเสียงนกแก๊กคุยกันอยู่อีกวงไม่ไกล ภาพที่ตกตะกอนนอนนิ่งคงสวยงามน่ามองแต่การก้มๆเงยของทุกคนกลับขัดตาเพราะไม่มีใครยืนอย่างสบายๆต่างต้องก้มเงย และก้มเงยยกแข้งซ้ายขึ้น ยกขาลง สลับซ้ายขวา มือคอยหยิบดึงทึ้งดอกหญ้าแห้ง ที่ขากางเกง


14/7/50 เช้าแล้วผู้คนมากมาย ที่เข้ามาช่วยงานฉลองมรดกโลกที่เขาใหญ่ ต่างสาขาอาชีพและเจ้าหน้าที่อุทยานต่างทำงานแข่งกับความรับผิดชอบเพื่อให้บรรลุผลงานที่วางไว้ แต่เหมือนธรรมชาติช่างแกล้งพากลุ่มเมฆฝนตั้งเค้าคลุมฟ้าเป็นวงกว้างให้ใจแตกพะวงเป็น 2 ฝ่าย ให้ห่วงทั้งงานที่วางเป็นขั้นเป็นตอน และห่วงกลุ่มฝนที่อยากโปรยความเปียกปอนลงมา กลุ่มของเราน้องเบีย น้องหนึ่ง น้องเจี๊ยบ น้องโย และหลายชายหนุ่มจ๊อบและเรา




เช้านี้ เริ่มพบนกค่อนข้างสาย นกเจ้าแห่งสีสันต่างแอบซ่อนดูบรรยากาศของกลุ่มคนที่แน่นหนา และฝนฟ้าที่ปิดคลื้มเช่นกัน จนเมื่อสายแล้ว ฟ้าจึงยอมเปิดแจ้งให้เราและนกต่างได้พบกันและกัน หยอกยั่วหายๆซ่อนๆ ตามกิ่งไม้ เกาะบิน บินเกาะดอกไม้บนยอดไม้สูง มีบ้างออกมากระโดดโลดเต้นตามกิ่งไม้ให้ใกล้ๆตาและแอบหายไปใต้กลุ่มใบหนา และบางตัวยืนพึ่งปีกเปียกน้ำค้าง ที่มาเป็นคู่ต่างเรียกหาคู่เพื่อบินไปพร้อมกัน
อาหารเที่ยง เป็นเวลาแห่งความสนุกสนาน ของฟรีอร่อยมาก บางอย่างที่หมายตาเหลือแต่ชื่อว่าเคยมี ทุกคนมีแต่ความสุขต่างยิ้มแย้มทักทายกันว่าใครพบนกอะไรบ้างไปไหนกันมาบ้างและตอนบ่ายจะไปทางไหนกัน นายกรัฐมนตรี สุรยุทธิ์ รับประทานทานอาหารอยู่ห้องข้างๆ มีคนบอกว่า ไม่นานท่านจะเดินผ่านมาทางนี้ เราได้พบท่านนายกอย่างใกล้ชิด ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกระโดดจากโต๊ะอาหารวิ่งเข้าไปเพื่อมองท่านใกล้ๆ และ การ์ดของท่านนายกหล่อไม่มากแต่สมารท์เหลือเกิน

จากห้องอาหาร- หนองผักชี ทางเดินเข้าเทลยามบ่ายเป็นเส้นทางเดินมืดคลื้ม ภายใต้กิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่ที่กลายเป็นร่มไม้เดินตามเราเป็นเงาดำตลอดทาง นกออกมาร้องเพลง อวดสีสันของปีกเงาแวววาว red- headed trogon บ้างเด่นชัดยามส่องกล้องพบเจอตัว ดวงตาที่สดใสเป็นประกาย บางตัวตื่นตกใจบินหนีไปทันที แต่บางตัวกลับใจออกมาทักทายอีกครั้งและอีกหลายๆครั้ง

จนเกือบเย็นกลุ่มของเราพึ่งเดินได้แค่ครึ่งทางอีกยาวไกลกว่าจะถึงทางออก กลุ่มของเรามากับผู้ชายเสียมาก คงไร้สาระหากพะวงเวลาและความเสี่ยง และฝนก็กระหน่ำลงมาจนพวกเราต้องหยุดเดินเพราะบางคนไม่มีเสื้อกันฝน



ที่ต้นไม้ใหญ่โตมหึมาข้างเคียง มุมมองที่โปร่งตา นกใหม่อีกแล้ว นกwreathed hornbill ตัวผู้1 ตัว ยืนหลบฝนบนกิ่งไม้ใหญ่ที่ยื่นมาจนเด่นชัด ขอบคุณเจ้าแห่งกาลเวลา พาให้เราได้ยืนหลบฝนกลางป่าเขาใหญ่ด้วยกัน เวลาเกือบ 20 นาทีที่คนและนกตัวนี้ต่างเปียกปอนเย็นฉ่ำจากสายฝน

เราพินิจย้ำลึกกับภาพที่ต้องจดจำนกตัวนี้ให้มากที่สุด เจ้าไซร้ปีก สะบัดปีกยามน้ำฝนซึมเปียกจนขนดำยาวอมน้ำหนักเปียกลู่ เจ้ามองไป สุดสายตาคงมองหาครอบครัวว่ายืนหลบฝนที่ต้นไม้ต้นไหนกันจึงทิ้งให้อยู่ลำพังตัวเดียว กล้องที่จะช่วยเก็บความงดงาม ต้องนอนหลบฝนอยู่ในกระเป๋าข้างตัว แต่ใจเรากลับไม่เสียดายเพราะเข้าใจแล้วว่าคงเป็นความต้องการของธรรมชาติให้มาเท่าที่ควรได


เจ้าแห่งกาลเวลาได้มอบห้วงชีวิตของเราช่วงหนึ่งได้พบและใช้ชีวิตร่วมกันกับนกน้อยแสนงามราชาแห่งป่าไพรเรื่องเช่นนี้มีแต่หัวใจเราที่ซึมซับที่กระหายอยากเล่าอยากเขียนก็เพื่อเก็บไว้ยามคิดถึงยามอยากระลึกถึง เมื่อบินจากไปพร้อมกับสร้างเสียงลมดังกังวาลป่ายามกระพือปีก บินไปทางทิศที่พี่น้องครอบครัวเจ้ารออยู่กลางป่าใหญ่ดงพญาเย็น

15/7/50 วันสุดท้ายป่าเขาใหญ่ ปากทางเดินเทล เหวสุวัจ- น้ำตกผากล้วยไม้ เสียงน้ำไหลจากลำธารดังกลบเสียงนกกางเขนดงแต่เราก็ทันเห็นเจ้าโล้ชิงช้าเกาะเถาวัลย์ยืนร้องเพลง และหลบบินหายเมื่อเสียงฝีเท้ากลุ่มของเราเดินตามมาและถามว่าเห็นนกอะไร ตามทางที่เดินลึกเข้าไปเสียงน้ำที่ไหลเลาะโขดหิน ดังซาดซ่าค่อยๆเงียบเบาจนเป็นแค่เสียงน้ำกระซิบกับสายลม จระเข้นอนเงียบนิ่งอยู่อีกฟากฝั่งตรงข้าม ดวงตาที่เปิดนิ่งลืมอยู่ ยิ่งกว่าคือไม่รู้เหมือนกันว่าจระเข้ตัวนี้มองอะไร

น้องเบียก็กระซิบด้วยเสียงตื่นเต้น “นกแต้วแล้ว” เรารีบนั่งลง ยกกล้องส่องหาด้วยสันชาตญาณ นกแต้วแล้ว hooded pitta ยืนนิ่งข้างรากไม้ใหญ่ และกระโดดจากไปไม่ไกล และกระโดดหนีไปไม่ไกลอีกครั้งหลบซ่อนที่โคนไม้มืดมีง่ามไม้เล็กๆบังบางส่วนของลำตัว นกใหม่ของเราอีกแล้ว จ๊อบ หนุ่มคนนี้เดินย่องเข้าไปใกล้นกอย่างทะนุถนอม ประคับคองเวลาห้วงนี้อย่างสำนึกอาจรบกวนและตระหนักถึงขีดความระแวดระวังอันตรายและยิ่งกว่านั้นให้ความเคารพต่ออีกชีวิตที่แม้ด้อยกว่าด้วยขนาดและสมองแต่คือการให้เกรียติกับสัตว์โลกที่หนุ่มคนนี้เรียนรู้จากห้องเรียนธรรมชาติ



นกแต้วแล้ว เรื่องยากสุดหัวใจทำไมพวกเราต้องเดินจากมา เราอยากพบนกตัวนี้มากไม่ใช่หรือ แล้วทำไมต้องเลือกที่จะทิ้งโอกาสที่ได้เฝ้ามองเค้า หรือธรรมชาติกำหนดเส้นทางข้างหน้าอีกยาวไกล ภารกิจรายงานนกที่พบคือก่อนเที่ยง เรายังเดินถามหาคำตอบไปเรื่อยๆ





เสียงเหมือนเคาะแก้วหวานแว่วจากลำธารค่อยปลอบประโลมใจเศร้า นกกางเขนน้ำ slaty-backed forktail จากหาดทรายขาวมีหินนอนเกยเรียงกัน นกกางเขนน้ำบินไปร้องเพลงกระซิบเสียงหวานใส ผ่านตาไป1ชาย1หญิง เดินลงเล่นชายทรายสีขาว และเกาะยืนเต้นรำกระดกหางบนซุงท่อนใหญ่หมุนตัวเหมือนอยู่แดนสวรรค์ ฟ้าใสสว่างลำธารระยิบระยับกับแสงแดดอ่อนๆ นกสวยร้องเพลง งดงามที่หัวใจคนแอบเฝ้ามอง
แล้วนกอะไรอีกบ้างที่เราจะได้พบ เรามาเขาใหญ่ไม่เคยมีเรื่องงานของการนับนกอยู่ในใจเรา มีแต่อยากพบ อยากเจอะเจอนกป่าที่คอยร้องเพลงให้ป่าฟัง อยากสัมผัสไอกลิ่นของป่า อยากจับลูบต้นไม้ใบไม้ อยากย่ำดินนิ่มๆของป่าผืนนี้ ได้กระโดดข้ามลำธาร เดินประคองตัวบนท่อนซุงที่พาดไปอีกฝั่งหรือตอนหยิบจับเหนี่ยวกิ่งไม้เหนียว จิกเท้าลงในดินให้มั่นก่อนไถลลื่นลงเขา หรือเมื่อกลั้นหายใจล้วงมือเข้าไปในกางเกงหยิบตัวทากอ้วนเหนียวแหยะหนึบติดมือออกมาแล้วร้องกรี๊ดๆลั่นป่า

การจากลา ขอลาก่อน ต่างยกมือไหว้ และดีใจที่ได้พบกัน ฝากความหวังวันหนึ่งคงมีโอกาสพบกันอีก กับอาจารย์อมรคนดีที่อยู่ในใจเรา คุณนกร่าเริง สมชื่อสดชื่นเมื่ออยู่ใกล้ คุณวิชาคนที่เรามักแอบมองด้วยความชมชอบเสมอๆ และน้องนัทที่เรารับปากว่าจะไปล่องแก่งหินเพิง และเจ้าหน้าที่สมาคมทุกคนที่มีรอยยิ้มจริงใจให้เราเสมอทุกครั้งที่หันไปพบเจอ คุณปลากระดี่ที่ได้พบตัวจริงเสียที คนนี้ที่เรามักเอาหนังสือของคุณไว้ข้างหมอน แม้ไม่ได้อ่านก็ตาม และคุณBunting ใส่เสื้อของผาด่างและโฆษณาให้อีกด้วย

ที่นี่เวลานี้คงไม่ใช่แค่ความสุขที่ได้กลับมาเยือนป่าเขาใหญ่หรือนกน้อยที่พากันบินให้เราได้พบ แต่เป็นอานุภาพของคนรักษ์นกกลุ่มเล็กๆ ที่ต่างเกาะเกี่ยวทุ่มเทพลังกางปีกปกป้อง ความร้ายกาจของมนุษย์ด้วยที่จ้องฉกฉวยผลประโยชน์จากชีวิตน้อยๆ ในอีกมุมหนึ่งคนกลุ่มนี้ยังช่วยกันสร้างคนรักษ์นกเพื่อทักทอรังนกในธรรมชาติให้ใหญ่ขึ้นมากขึ้น ทุกที่ทั้งในป่าเมือง และในป่าใหญ่














ไม่มีความคิดเห็น: